คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คนญี่ปุ่นประพฤติต่อกันฉันท์สามีภรรยาตลอดมาเป็นเวลานาน แม้ไม่ได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.สำหรับแต่งงานคนต่างประเทศ ร.ศ.116 ก็นับว่าเป็นสามีภริยากันตามกฎหมาย ป.พ.พ.ม.115 ลักษณะพะยานหลักฐานมิใช่แบบแห่งความสมบูรณ์ของนิติกรรม กฎหมายบัญญัติถึงการทำหลักฐานในการอย่าง 1 ไว้แต่มิได้ห้ามการรับฟังหลักฐานอย่างอื่น ก็ย่อมรับฟังหลักฐานอื่นได้ ฎีกาอุทธรณ์คนบังคับญี่ปุ่น คนบังคับญี่ปุ่นเป็นคู่ความย่อมฎีกาได้ฉะเพาะข้อกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ชนะความแล้วยึดทรัพย์จำเลยผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ว่าทรัพย์บางอย่างเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องแลจำเลยไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน
ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้ร้องกับจำเลยอยู่กินหลับนอนร่วมกันมาประมาณ ๒๐ ปี และประพฤติต่อกันฉันท์สามีภริยา โดยเปิดเผยตลอดมา แต่ผู้ร้องกับจำเลยเป็นคนญี่ปุ่นแลมิได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.สำหรับแต่งงานคนต่างประเทศ ร.ศ.๑๑๖
ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์ฟังว่าผู้ร้องแลจำเลยเป็นภริยาสามีกันแลทรัพย์ที่ยึดเป็นสินบริคณห์จึงให้ยกคำร้องขัดทรัพย์
ศาลฎีกากล่าว-ว่าคดีนี้ฎีกาได้ฉะเพาะข้อกฎหมาย และวินิจฉัยว่าตาม พ.ร.บ.สำหรับแต่งงานคนต่างประเทศ ร.ศ.๑๑๖ ม.๑ บัญญัติถึงพิธีแต่งงานตามกฎหมายสยามก็เพื่อให้คนต่างประเทศทราบและประกอบพิธิแต่งงานตามกฎหมายสยามให้ถูกต้องส่วนมาตรา ๒ และ ๓ บัญญัติถึงวิธีทำหลักฐานให้กฎหมายรับรองโดยเด็ดขาดแน่นอน คือให้เป็นหลักฐานอันผู้ใดจะโต้แย้งหรือสืบหักล้างไม่ได้ อนึ่งตามหลักกฎหมายทั่วไปไม่ถือว่าหลักฐานเป็นแบบแห่งความสมบูรณ์ของนิติกรรมหรือสัญญา ทั้ง ม.๒-๓ ก็ไม่ได้บังคับว่าการแต่งงานคนต่างประเทศให้-รับฟังเป็นหลักฐานได้ฉะเพาะการกระทำตามกฎหมายเข้าเกณฑ์แห่งองค์ (๒) แลเห็นว่าการที่จำ-เลยตั้งใจจะคืนในภายหลังหรือไม่ ๆ เป็นข้อสำคัญ จึงพิพากษาว่าจำเลยมีผิดฐานลักษณทรัพย์ที่จะใช้สำหรับราชการตาม ม. ๒๙๔ (๕) ให้จำคุกจำเลย ๖ เดือน

Share