คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3553/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาค้ำประกันมีข้อความว่า จำเลยที่ 2 ยอมรับผิดชดใช้เงินแทนจำเลยที่ 1 ในทันทีที่ได้รับการทวงถาม โดยมิพักต้องเรียกร้องเอาจากจำเลยที่ 1 ก่อนขอสัญญาดังกล่าวมีผลทำให้โจทก์มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 หรือที่ 2 คนใดคนหนึ่งชำระหนี้สิ้นเชิง โดยจำเลยที่ 1 และที่ 2 ยังคงต้องรับผิดต่อโจทก์จนกว่าโจทก์จะได้รับชำระหนี้เสร็จสิ้นเชิง จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 อย่างลูกหนี้ร่วม ข้อตกลงดังกล่าวไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงมีผลผูกพันคู่สัญญา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๒๕ จำเลยที่ ๑ ได้ทำสัญญากับโจทก์ ขอรับทุนการศึกษาในสาขาวิชาพยาบาลและผดุงครรภ์ ณ วิทยาลัยพยาบาล โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครศรีธรรมราช มีกำหนด ๒ ปี จำเลยที่ ๑ สัญญาว่า หากปฏิบัติผิดระเบียบข้อบังคับของวิทยาลัยอันเป็นการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของตนและทางราชการจนทางวิทยาลัยพยาบาลให้ออกจาการเป็นนักศึกษา จำเลยที่ ๑ จะต้องชำระเงินจำนวน ๑๒,๐๐๐ บาท พร้อมค่าปรับอีก ๑๒,๐๐๐ บาท แก่โจทก์ จำเลยที่ ๒ ทำสัญญาค้ำประกันจำเลยที่ ๑ ต่อมาจำเลยที่ ๑ ลักเงินของเพื่อนนักศึกษาเป็นเหตุให้วิทยาลัยพยาบาลสั่งให้จำเลยที่ ๑ พ้นสภาพการเป็นนักศึกษา โจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยทั้งสองชำระค่าเสียหายและค่าปรับดังกล่าวแล้ว จำเลยทั้งสองชำระให้เพียง ๓,๐๐๐ บาท ยังขาดอยู่อีก ๒๑,๐๐๐ บาท ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินค่าเสียหายและดอกเบี้ยจำนวน ๒๖,๕๑๒.๕๐ บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน ๒๑,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ใช้เงินจำนวน ๑๖,๐๐๐ บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ หากบังคับชำระหนี้เอาจากจำเลยที่ ๑ ไม่ได้ ให้บังคับชำระหนี้จำนวนดังกล่าวจากจำเลยที่ ๒ แทน
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๑ ใช้เงิน ๒๑,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย ๕,๕๑๒.๕๐ บาท รวมเป็นเงิน ๕๖,๕๑๒.๕๐ บาท แก่โจทก์ และชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน ๒๑,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้จำเลยที่ ๒ ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามสัญญาค้ำประกันข้อ ๓ มีข้อความว่าจำเลยที่ ๒ ยอมรับผิดชดใช้เงินแทนจำเลยที่ ๑ ในทันทีที่ได้รับการทวงถาม โดยมิพักต้องเรียกร้องเอาจากจำเลยที่ ๑ ก่อน ข้อความดังกล่าวแสดงว่า มีข้อตกลงเป็นพิเศษให้โจทก์เรียกร้องให้จำเลยที่ ๒ ชำระหนี้ทั้งหมดได้ โดยไม่ต้องเรียกร้องให้จำเลยที่ ๑ ชำระหนี้ก่อน อันมีผลทำให้โจทก์มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ ๑ หรือที่ ๒ คนใดคนหนึ่งชำระหนี้สิ้นเชิง โดยจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ยังคงต้องรับผิดต่อโจทก์จนกว่าโจทก์จะได้รับชำระหนี้เสร็จสิ้นเชิง จำเลยที่ ๒ จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ อย่างลูกหนี้ร่วม ข้อตกลงดังกลาวไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงมีผลผูกพันคู่สัญญา
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินจำนวน ๒๖,๕๑๒.๕๐ บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน ๒๑,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

Share