แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกักกันข้าวในเขตห้ามกักกันข้าวในระหว่างพิจารณาได้มีพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว(ฉบับที่ 2)2489 ออกใช้ ซึ่งบัญญัติว่าผู้มีข้าวเกินปริมาณจะมีผิดต่อเมื่อไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการกำหนดซึ่งเป็นการแก้ไขกฎหมายฉบับเดิมและเป็นคุณแก่จำเลย เมื่อการกระทำของจำเลยไม่มีผิดตามกฎหมายฉบับหลัง ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 8 (อ้างฎีกาที่ 621-622/2491)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า เมื่อระหว่าง 15 มีนาคม 2489 ถึง 1 พฤษภาคม 2489 จำเลยกักกันข้าวในเขตห้ามกักกันข้าว โดยมีข้าวเปลือกไว้ในครอบครอง 25 เกวียน โดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษจำเลยจำเลยให้การว่าข้าวเปลือกตามฟ้องจำเลยได้แจ้งปริมาณต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2489 แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งอ้างว่า พ้นกำหนดแล้ว ความจริงจะพ้นกำหนดหรือยัง จำเลยไม่ทราบกับต่อสู้ว่า เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2489 จำเลยมีข้าวอยู่ 3 เกวียนนอกนั้นเพิ่มขึ้นภายหลัง ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในระหว่างพิจารณาคดีนี้ ได้มีพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) 2489 ออกใช้ ซึ่งบัญญัติว่าผู้มีข้าวเกินปริมาณจะมีผิดก็ต่อเมื่อไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการกำหนด ซึ่งเป็นการแก้ไขกฎหมายฉบับเดิม และเป็นคุณแก่จำเลย ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
พิพากษายืน