คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3527/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 ทำสัญญาค้ำประกันจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์มีข้อตกลงว่าหากมีข้อพิพาทจากการค้ำประกันดังกล่าวให้เสนอคดีต่อศาลแพ่ง จำเลยที่ 2 ลงชื่อในสัญญาค้ำประกันฝ่ายเดียว โจทก์มิได้ลงชื่อด้วย ถือไม่ได้ว่าโจทก์กับจำเลยที่ 2 มีการตกลงเป็นหนังสือตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 7(4)ที่ใช้บังคับขณะยื่นฟ้องว่าโจทก์จะต้องเสนอคดีนี้ต่อศาลแพ่งโจทก์จึงฟ้องจำเลยที่ 2 ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจำเลยที่ 2มีภูมิลำเนาอยู่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาขายลดเช็คกับโจทก์ในวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท หากเช็คที่นำมาขายลดฉบับใดถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยที่ 1 ยินยอมรับผิดพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 19.5 ต่อปี จำเลยที่ 2 ได้เข้าเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1ต่อโจทก์อย่างลูกหนี้ร่วม ต่อมาจำเลยที่ 1 นำเช็คธนาคารกรุงไทยจำกัด สาขาสันป่าข่อย จำนวนเงิน 180,000 บาท ขายลดแก่โจทก์เมื่อเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ทวงถามแล้ว แต่จำเลยทั้งสองไม่ยอมชำระขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 306,655.87 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 18.5 ต่อปี ของต้นเงิน 180,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การว่า สัญญาค้ำประกันปลอมเพราะลายมือชื่อผู้ค้ำประกันในสัญญาค้ำประกันไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยที่ 2ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 306,655.87 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 18.5 ต่อปีของต้นเงินจำนวน 180,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาตามฎีกาของจำเลยที่ 2 มีว่าโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้หรือไม่ ได้ความว่าขณะฟ้องจำเลยที่ 2 มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลจังหวัดเชียงใหม่จำเลยที่ 2 อ้างว่าโจทก์กับจำเลยที่ 2 มีการตกลงกันไว้ว่าข้อพิพาทจากการค้ำประกันดังกล่าวให้เสนอต่อศาลแพ่ง โจทก์จึงฟ้องจำเลยที่ 2ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ไม่ได้นั้น เห็นว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้ในขณะที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเดิมใช้บังคับซึ่งมาตรา 7(4) เดิมบัญญัติว่า “ถ้าได้มีการตกลงกันไว้เป็นหนังสือว่าคู่สัญญาได้ยินยอมกันว่าบรรดาข้อพิพาทที่ได้เกิดขึ้นแล้วก็ดีหรือข้อพิพาทที่อาจจะเกิดขึ้นจากข้อสัญญาก็ดี ให้เสนอต่อศาลชั้นต้นศาลใดศาลหนึ่งตามที่ได้ระบุไว้ซึ่งไม่มีหรืออาจไม่มีเขตศาลเหนือคดีนั้นตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยศาลที่จะรับคำฟ้องข้อตกลงเช่นนี้ให้เป็นอันผูกพันกันได้ ฯลฯ” แต่ข้อตกลงให้เสนอคดีต่อศาลแพ่งที่จำเลยที่ 2 อ้างเป็นเพียงข้อความที่ระบุไว้ในเอกสารซึ่งเป็นหลักฐานการค้ำประกันเป็นหนังสือที่ลงลายมือชื่อจำเลยที่ 2ผู้ค้ำประกันฝ่ายเดียว ส่วนโจทก์หาได้ลงลายมือชื่อไว้ด้วยไม่ถือไม่ได้ว่าโจทก์กับจำเลยที่ 2 มีการตกลงกันไว้เป็นหนังสือว่าโจทก์จะต้องเสนอคดีนี้ต่อศาลแพ่งโจทก์จึงฟ้องจำเลยที่ 2 ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยชอบแล้วฎีกาของจำเลยที่ 2ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share