คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3526/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำขอให้พิจารณาใหม่จะต้องยื่นต่อศาลภายในกำหนด 15 วันนับแต่วันที่การส่งคำบังคับมีผล จำเลยยื่นคำขอเมื่อล่วงเลยระยะเวลา15 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด จึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่ได้ส่วนกำหนดระยะเวลา 6 เดือน ตามบทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคแรกท่อนท้ายนั้นจะนำมาใช้บังคับต่อเมื่อมีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้อันเป็นผลให้จำเลยไม่อาจยื่นคำขอภายในกำหนด 15 วัน นับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาหรือภายในระยะเวลาตามกำหนดของศาล ตามคำขอของจำเลยไม่ปรากฏว่าอ้างพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ไว้จึงไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วแต่ศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยในส่วนนี้

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยที่ ๑ ผู้เช่าซื้อรถยนต์และจำเลยที่ ๒ ผู้ค้ำประกันให้ร่วมกันชำระเงินค่าเสียหายพร้อมด้วยดอกเบี้ย จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาจำเลยที่ ๒ ยื่นคำให้การแต่ขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๒ ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นยกคำร้อง
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คงมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาตามที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับไว้แต่เพียงว่า จำเลยที่ ๒ จะต้องยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในกำหนด ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาให้จำเลยที่ ๒ หรือภายในกำหนด ๖ เดือน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๐๘ วรรคแรกท่อนท้ายเห็นว่า คดีนี้ปรากฏว่าเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๓๐ พนักงานเดินหมายนำคำบังคับไปส่งให้แก่จำเลยที่ ๒ ที่บ้านเลขที่ ๓๓/๕๗๔ หมู่ที่ ๑๙ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร อันเป็นภูมิลำเนาของจำเลยที่ ๒ พบว่าบ้านปิดประตูใส่กุญแจจึงปิดหมายไว้ตามคำสั่งของศาลชั้นต้น ถือว่าได้ส่งคำบังคับให้แก่จำเลยโดยชอบซึ่งการส่งคำบังคับดังกล่าวมีผลใช้ได้เมื่อกำหนดเวลา ๑๕ วันได้ล่วงพ้นไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๗๙ วรรคสองดังนั้นคำบังคับที่ส่งให้แก่จำเลยที่ ๒ จึงมีผลในวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๓๐ จำเลยที่ ๒ อาจยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ภายในกำหนด๑๕ วัน นับแต่วันที่การส่งคำบังคับมีผล ซึ่งครบกำหนดในวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๓๐ จำเลยที่ ๒ มายื่นคำขอให้พิจารณาใหม่วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๓๐ ล่วงเลยระยะเวลา ๑๕ วัน ตามที่กฎหมายกำหนดไว้จึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่ได้ ที่จำเลยที่ ๒ ฎีกาว่า จำเลยที่มีสิทธิยื่นคำขอภายในกำหนด ๖ เดือนนั้น เห็นว่า กำหนดระยะเวลา๖ เดือน ตามบทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา๒๐๘ วรรคแรกท่อนท้ายนั้น จะนำมาใช้บังคับต่อเมื่อมีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้อันเป็นผลให้จำเลยที่ ๒ ไม่อาจยื่นคำขอภายในกำหนด ๑๕ วัน นับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาหรือภายในระยะเวลาตามคำกำหนดของศาล แต่ตามคำขอของจำเลยที่ ๒ไม่ปรากฏว่าอ้างพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ไว้ จึงมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วแต่ศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยในส่วนนี้
พิพากษายืน.

Share