คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3525/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดทั้งหมด 6 รายการ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ถอนการยึดทรัพย์เฉพาะบางรายการ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ผู้ร้องได้มายื่นคำร้องเป็นคดีนี้ ขอให้ปล่อยทรัพย์รายเดียวกันกับทรัพย์ในคดีก่อนที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกคำร้องไปแล้ว ดังนี้คำร้องของผู้ร้องในคดีก่อนกับคำร้องของผู้ร้องในคดีนี้ต่างก็ได้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดโดยอ้างว่าเป็นทรัพย์ของผู้ร้องซึ่งเป็นทรัพย์รายเดียวกัน ประเด็นแห่งคดีทั้งสองเป็นประเด็นอย่างเดียวกัน คู่ความทั้งสองฝ่ายก็เป็นคู่ความรายเดียวกัน ทั้งศาลชั้นต้นก็ได้เคยมีคำพิพากษาชี้ขาดในประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีไปแล้ว คำร้องของผู้ร้องในคดีนี้จึงต้องห้ามมิให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่อีกตาม ป.วิ.พ.มาตรา 144.

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองชำระหนี้ค่าสินค้าแล้วศาลพิพากษาตามยอมให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้แก่โจทก์ แต่จำเลยทั้งสองไม่ยอมชำระหนี้ตามกำหนดเวลาดังกล่าว โจทก์จึงขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยทั้งสอง และได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดโต๊ะทำงานสีเทามีกระจกปูขนาดต่าง ๆไม่รวมเก้าอี้ จำนวน 6 ตัว เครื่องปรับอากาศยี่ห้อไดกิ้น ขนาด12,000 บี.ที.ยู. จำนวน 1 เครื่อง เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยแคร่ยาวประมาณ 18 นิ้ว ยี่ห้อโอลิมเปีย จำนวน 1 เครื่อง ตู้เหล็กเก็บเอกสารชนิด 2 บาน จำนวน 1 ตู้ ตู้เหล็ก 4 ลิ้นชักสำหรับเก็บเอกสารจำนวน 2 ตู้ และเก้าอี้บุนวมชนิดหมุนได้ จำนวน 5 ตัว รวม 6 รายการเพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า โจทก์ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยทั้งสองจำนวน 6 รายการ และต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าว แต่มีผู้ร้องขัดทรัพย์ครั้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2529 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ถอนการยึดทรัพย์บางรายการคือ เครื่องปรับอากาศ จำนวน 1 เครื่อง เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทย จำนวน 1 เครื่อง เก้าอี้บุนวมชนิดหมุนได้ จำนวน 1ตัว โต๊ะเขียนหนังสือขนาด 5 ฟุต จำนวน 1 ตัว ตามบัญชีทรัพย์ของเจ้าพนักงานบังคับคดี ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2528 ส่วนทรัพย์ที่ศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งคืน คือ โต๊ะเหล็กทำงานสีเทามีกระจกปูขนาดต่าง ๆ โดยไม่รวมเก้าอี้จำนวนอีก 5 ตัว ตู้เหล็กเก็บเอกสารชนิด 2 บาน จำนวน 2 ตู้ (ที่ถูกน่าจะเป็น 1 ตู้) ตู้เหล็ก 4 ลิ้นชักสำหรับเก็บเอกสารจำนวน 2 ตู้ และเก้าอี้บุนวมชนิดหมุนได้จำนวน4 ตัว เป็นของผู้ร้อง โดยผู้ร้องซื้อมาจากห้างหุ้นส่วนจำกัดสีรุ่งเรืองเคหภัณฑ์ ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 462/2-3 ถนนบำรุงเมือง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2520, 11 มกราคม2521, 12 มกราคม 2521 และ 20 พฤษภาคม 2521 ตามลำดับ ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องมาครั้งหนึ่งแล้วโดยอ้างว่าทรัพย์ที่โจทก์นำยึดจำนวน 6 รายการ ตามคำร้องเป็นของผู้ร้อง ซึ่งศาลได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2529 ว่าให้ถอนการยึดทรัพย์ คือ เครื่องปรับอากาศยี่ห้อไดกิ้น ขนาด 12,000บี.ที.ยู. จำนวน 1 เครื่อง เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยแคร่ยาว 18 นิ้วยี่ห้อโอลิมเปีย จำนวน 1 เครื่อง เก้าอี้บุนวมชนิดหมุนได้จำนวน1 ตัว โต๊ะเขียนหนังสือเหล็ก ขนาด 5 ฟุต จำนวน 1 ตัว ตามบัญชีทรัพย์ของเจ้าพนักงานบังคับคดี ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2528 และให้ปล่อยคืนเป็นสิทธิแก่ผู้ร้องไป คำขออื่นนอกนี้ให้ยก ผู้ร้องมิได้อุทธรณ์ คดีถึงที่สุดแล้ว ผู้ร้องมาร้องขัดทรัพย์ในคดีนี้อีกว่าทรัพย์ตามคำร้องเป็นของผู้ร้องเช่นนี้ เป็นคำร้องซ้ำต้องห้าม ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า คดีของผู้ร้องไม่เป็นการร้องซ้ำแต่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 พิพากษายืนในผล
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ตามคำร้องต่อศาลชั้นต้น โดยศาลชั้นต้นเห็นว่าพยานหลักฐานของผู้ร้องที่นำมาสืบรับฟังไม่ได้ว่าทรัพย์ตามคำร้องเป็นของผู้ร้องและมีคำพิพากษาให้ยกคำร้องเฉพาะทรัพย์ดังกล่าวเสียแล้วนั้น ผู้ร้องจะมายื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ดังกล่าวต่อศาลชั้นต้นใหม่ได้อีกหรือไม่ เห็นว่าในการวินิจฉัยข้อกฎหมายดังกล่าวศาลฎีกาจำต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังมาว่าผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2528 ต่อมาเมื่อวันที่31 มีนาคม 2529 ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้ถอนการยึดทรัพย์เฉพาะเครื่องปรับอากาศยี่ห้อไดกิ้น ขนาด 12,000 บี.ที.ยู. จำนวน 1เครื่อง เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยแคร่ยาวประมาณ 18 นิ้ว ยี่ห้อโอลิมเปียจำนวน 1 เครื่อง เก้าอี้บุนวมชนิดหมุนได้ จำนวน 1 ตัวโต๊ะเขียนหนังสือเหล็กขนาด 5 ฟุต จำนวน 1 ตัว ตามบัญชีทรัพย์ของเจ้าพนักงานบังคับคดีลงวันที่ 14 สิงหาคม 2528 คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ผู้ร้องได้มายื่นคำร้องเป็นคดีนี้เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2529 โดยขอให้ปล่อยทรัพย์รายเดียวกันกับทรัพย์ในคดีก่อนที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกคำร้องไปแล้วนั้นอีกดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าคำร้องของผู้ร้องในคดีก่อนกับคำร้องของผู้ร้องในคดีนี้ ต่างก็ได้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดโดยอ้างว่าเป็นทรัพย์ของผู้ร้องซึ่งเป็นทรัพย์รายเดียวกัน ประเด็นแห่งคดีทั้งสองเรื่องก็มีอยู่ว่า ทรัพย์ที่โจทก์นำยึดมาขายทอดตลาดนั้นเป็นของผู้ร้องหรือไม่ซึ่งเป็นประเด็นอย่างเดียวกัน คู่ความทั้งสองฝ่ายก็เป็นคู่ความรายเดียวกัน ทั้งศาลชั้นต้นก็ได้เคยมีคำพิพากษาชี้ขาดในประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีไปแล้ว ดังนั้นคำร้องของผู้ร้องในคดีนี้จึงต้องห้ามมิให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่อีกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share