แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้มอบหมายทรัพย์ให้ผู้ครอบครองอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา352นั้นมิได้หมายความเฉพาะแต่เจ้าของทรัพย์ศาลซึ่งมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกก็ถือว่าเป็นผู้มอบหมายทรัพย์มรดกให้แก่ผู้จัดการมรดกครอบครองหากผู้จัดการมรดกเบียดบังเอาไปโดยทุจริต อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352,354 ได้
ย่อยาว
โจทก์ทั้งสามฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางสาวแชตามคำสั่งศาล ได้สมคบกับจำเลยที่ 2 แจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าจำเลยที่ 1 ได้ขายที่ดินทรัพย์มรดกให้แก่จำเลยที่ 2 แล้ว เพื่อให้เจ้าพนักงานจดทะเบียนให้ อันเป็นความเท็จเพราะไม่ได้มีการซื้อขายกันจริง เป็นการเบียดบังเอาทรัพย์มรดกเป็นของตนโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 353, 354, 83
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วประทับฟ้องไว้พิจารณาเฉพาะจำเลยที่ 1
จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความผิดฐานยักยอกตามมาตรา 352 ผู้มอบหมายทรัพย์ให้ผู้ครอบครองนั้น ผู้มอบหมายในที่นี้มิได้หมายความเฉพาะแต่เจ้าของทรัพย์เท่านั้นศาลซึ่งมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกก็ถือได้ว่าเป็นผู้มีอำนาจมอบหมายทรัพย์มรดกให้แก่ผู้จัดการมรดกครอบครองเพื่อจัดการตามสิทธิและหน้าที่ที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หากข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบฟังได้ว่าจำเลยที่ 1ได้เบียดบังเอาทรัพย์มรดกที่ตนได้รับมอบหมายให้จัดการในฐานะผู้จัดการมรดกไปโดยทุจริตแล้ว จำเลยที่ 1 อาจมีความผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352, 354 ได้
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 มีเจตนาทุจริตตามฟ้องหรือไม่ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี