คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3524/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์ที่ชนรถยนต์ของโจทก์ให้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ เป็นการฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะผู้รับประกันภัยค้ำจุนตามป.พ.พ. มาตรา 887 วรรคสอง จึงมีอายุความ 2 ปี นับแต่วันเกิดวินาศภัยตาม ป.พ.พ. มาตรา 882 วรรคแรก จะนำอายุความในมูลละเมิดตาม ป.พ.พ. มาตรา 448 มาใช้ไม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์คันที่ชนรถยนต์ของโจทก์ให้ใช้ค่าเสียหาย 145,254 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า คดีโจทก์ขาดอายุความเพราะฟ้องเกิน 1 ปี นับแต่วันทำละเมิดและรู้ตัวผู้รับผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์ 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ประเด็นในชั้นฎีกามีตามฎีกาของจำเลยเพียงว่า คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ จำเลยฎีกาว่าอายุความคดีนี้ต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคแรก หาใช่มาตรา 882 วรรคแรก ตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ คดีโจทก์จึงขาดอายุความนั้น เห็นว่า อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา448 เป็นเรื่องการใช้สิทธิเรียกร้องของผู้ต้องเสียหายในมูลละเมิดซึ่งมีอายุความ 1 ปี นับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกให้จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์บรรทุกคันที่ชนรถยนต์บรรทุกของโจทก์ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ อันเป็นการฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะผู้รับประกันภัยค้ำจุนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 887 วรรคสอง ซึ่งมีอายุความ 2 ปีนับแต่วันเกิดวินาศภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 882 วรรคแรก จะนำอายุความในมูลละเมิดมาใช้กับคดีนี้ไม่ได้ เมื่อคดีนี้เหตุเกิดในวันที่ 11มกราคม 2526 และโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2528 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ…”
พิพากษายืน

Share