คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามสัญญาจำซื้อขายใส่ไว้ด้วยว่า ถ้าผู้ขาย ขายที่ดินให้ผู้ซื้อไม่ได้ตามสัญญา ก็ให้ผู้ซื้อเรียกค่าเสียหายอีกหนึ่งเป็นเงิน 2,000 บาท ดังนี้ แม้ผู้ขายจะบิดพลิ้วไม่ยอมขายที่ดินแก่ผู้ซื้อตามสัญญา จนผู้ซื้อต้องฟ้อง ศาลบังคับให้ขายก็ดี ถ้าศาลพิพากษาให้ผู้ขายขายที่ดินให้ผู้ซื้อตามสัญญาแล้ว ศาลก็ไม่ให้ผู้ขายใช้เงิน 2,000 บาท แก่ผู้ซื้อ เพราะถือว่าได้มีการซื้อขายกันตามสัญญาแล้ว

ย่อยาว

สำนวนแรกโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยโอนขายที่ดินให้โจทก์ตามสัญญาซื้อขายและเรียกค่าเสียหาย
สำนวนที่ 2 โจทก์กล่าวอ้างว่า จำเลยที่ 2 เอาที่ดินพิพาทอันเป็นสินสมรสของโจทก์ไปขาย โดยมิได้รับความยินยอม จึงของให้เพิกถอนสัญญาซื้อขาย
ศาลชั้นต้นพิจารณารวมกัน แล้วพิพากษาให้นางหวี้ไปทำสัญญาที่พิพาทให้โจทก์ กับใช้ค่าเสียหาย 2,000 บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เรื่องค่าเสียหาย เป็นไปให้ใช้ค่าเสียหาย นอกนั้นยืน
นายไล่ นายสมพงษ์ นางหวี้ ฎีกา
ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงว่า นายสมพงษ์สามี นางหวี้ รู้เห็นยินยอมในการซื้อขายรายนี้ด้วย จึงต้องบังคับตามสัญญา
ส่วนเรื่องค่าเสียหายนั้น ตามสัญญาจะซื้อขายมีว่าให้เรียกค่าเสียหายอีกโสดหนึ่งเป็นเงิน 2,000 บาท นั้นหมายความว่า นางหวี้ขายที่ดินให้ไม่ได้ตามสัญญา แต่เรื่องนี้ศาลได้ พิพากษาบังคับให้นางหวี้ขายที่ดินให้โจทก์ตามสัญญานั้นแล้ว ส่วนค่าเสียหายที่เป็นความฟ้องร้องก็ดี ค่าเสียหายอย่างอื่นก็ดี เป็นคนละเรื่องกับค่าเสียหายที่กล่าวไว้ในสัญญา ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ใช้ค่าเสียหาย ๒,๐๐๐ บาท ชอบแล้ว
จึงพิพากษา

Share