แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
เมื่อคู่ความได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ย่อมผูกพันคู่ความตามนั้น และแม้สัญญาประนีประนอมยอมความจะถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำพิพากษาก็ตาม แต่จะแก้ไขข้อผิดพลาดได้ก็ต่อเมื่อเป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อยอื่น ๆ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 วรรคหนึ่ง เท่านั้น เมื่อโจทก์และจำเลยทั้งสองขอเพิ่มเติมหมายเลขโฉนดที่ดินสำหรับที่ดินอีก 1 แปลง เข้ามาใหม่ จึงมิใช่ข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อยที่ศาลมีอำนาจแก้ไขได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสองฉบับลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2541 โดยเฉพาะสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อ 5 ความว่า หากจำเลยทั้งสองผิดนัดชำระหนี้… ยอมให้โจทก์บังคับคดีได้ทันที โดยยึดทรัพย์จำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 5700, 5701, 5702 ตำบลคลองหนึ่ง (คลอง 1 ตก) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี (ธัญบุรี) พร้อมสิ่งปลูกสร้าง … ออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้โจทก์
โจทก์และจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งแก้ไขสัญญาประนีประนอมยอมความเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2542 อ้างว่า ในการพิมพ์สัญญาประนีประนอมยอมความ มิได้ระบุโฉนดที่ดินเลขที่ 5703 ไว้ด้วย จึงขอเพิ่มเติมแก้ไขในสัญญาประนีประนอมยอมความโดยเติมโฉนดที่ดินเลขที่ 5703 ในสัญญาประนีประนอมยอมความข้อ 5 และให้โจทก์กับจำเลยทั้งสองลงลายมือชื่อกำกับต่อหน้าศาล เพื่อให้ถูกต้องตรงตามเจตนาของคู่ความ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การขอแก้ไขตามคำร้องเป็นการแก้ไขในส่วนสำคัญ ทั้งไม่มีกฎหมายให้อำนาจศาลทำการแก้ไขได้
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่า เมื่อได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ และศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ย่อมผูกพันคู่ความตามนั้นและแม้สัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจะถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำพิพากษาก็ตาม แต่การจะแก้ไขข้อผิดพลาดได้ก็ต่อเมื่อเป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อยอื่น ๆ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 วรรคหนึ่ง เท่านั้น แต่ข้อที่โจทก์และจำเลยทั้งสองขอเพิ่มนั้น เป็นการเพิ่มเติมหมายเลขโฉนดที่ดินสำหรับที่ดินอีก1 แปลง เข้ามาใหม่ ซึ่งผิดไปจากเดิม กรณีจึงมิใช่ข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อยที่ศาลมีอำนาจแก้ไขได้ โจทก์และจำเลยทั้งสองจึงไม่อาจแก้ไขได้ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผลฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน