คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3506/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องแย้งเป็นคำฟ้อง จำเลยจะต้องบรรยายฟ้องให้เห็นว่าโจทก์ได้โต้แย้งสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายของจำเลยที่ 1 อย่างไร ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 55 ทั้งคำฟ้องจะต้องแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาเป็นประเด็นข้อพิพาทขึ้นมาใหม่ และคำขอคำบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่าหากจำเลยที่ 1 ไม่เสนอข้อหาโดยคำฟ้องแย้งแล้ว จำเลยที่ 1 จะไม่ได้รับความคุ้มครองให้เป็นไปตามสิทธิตามมาตรา 172 วรรคสอง และต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคำฟ้องเดิมพอที่จะรวมการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ตามมาตรา 177 วรรคสาม และมาตรา 179 วรรคสุดท้าย
โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยที่ 1 กับพวกรับผิดตามสัญญาบัญชีเดินสะพัดและสัญญาตั๋วเงิน แต่ตามคำให้การของจำเลยที่ 1 ที่อ้างว่าเป็นฟ้องแย้งมีข้อความแต่เพียงว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้ผิดนัดผิดสัญญาเพราะจำเลยที่ 1 ได้ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่โจทก์แล้ว ส่วนการขายลดเช็ค จำเลยที่ 1ให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่เคยได้รับเงินตามเช็คที่โจทก์นำมาฟ้อง โจทก์หลอกลวงให้จำเลยที่ 1 โอนส่งมอบเช็คให้แก่โจทก์ยึดถือเป็นประกันในการปฏิบัติตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีเท่านั้น ซึ่งเป็นแต่เพียงคำให้การปฏิเสธความรับผิดเท่านั้น หากเป็นจริงตามที่จำเลยที่ 1 อ้าง โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องบังคับแก่จำเลยที่ 1 อยู่แล้วจำเลยที่ 1 มิได้เสนอข้อกล่าวหาเป็นประเด็นขึ้นมาใหม่ คำให้การดังกล่าวจึงไม่ต้องด้วยลักษณะฟ้องแย้ง

Share