แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องบรรยายข้อความว่าจำเลยทำร้ายร่างกายเขาโดยเจตนาและอ้าง ม.256 เป็นบทลงโทษ แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยทำร้ายร่างกายเขาโดยประมาท ลงโทษจำเลยมิได้อุทธรณ์ฎีกา ในคดีที่ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงมิได้เจตนาหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ย่อยาว
ฟ้องขอโจทก์บรรยายความว่าจำเลยมีปืนโดยมิได้รับอนุญาต และใช้ปืนยิงนายเกตโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย แต่กะสุนปืนถูกในที่ไม่สำคัญ นายเกตจึงได้รับบาดเจ็บเพียง ๒ แห่ง ขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญา ม.๒๔๙-๖๐-๒๕๖ และ พ.ร.บ.อาวุธปืน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยมิได้มีเจตนาจะยิงนายเกตแต่ประการใด เหตุที่กะสุนปืนลั่นออกไปถูกนายเกตก็เนื่องจากที่ล้อเลียนกันเล่นศาลอุทธรณ์เห็นว่าจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายโดยประมาทมิได้ตาม ม.๑๙๒ แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญา ให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาตัดสินว่าข้อที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยควรมีผิดฐานพยายามฆ่านายเกตนั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันมาว่าจำเลยไม่มีเจตนา ฎีกาโจทก์ในข้อนี้จึงต้องห้ามตาม ม.๒๑๙ ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ส่วนข้อที่ว่าจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายโดยประมาทได้หรือไม่นั้น เห็นว่าเมื่อฟ้องของโจทก์บรรยายถึงการกระทำของจำเลยไปในทางเจตนามิได้บรรยายถึงการกระทำโดยประมาทเลยเช่นนี้ก็ลงโทษมิได้ เพราะเป็นคนละประเด็นทั้งการนำสืบและการต่อสู้คดีก็ต่างกัน คดีต้องด้วยประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๑๙๒ วรรคต้น จึงพิพากษายืน