คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3493/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายขายที่ดินให้โจทก์โดยมีข้อตกลงว่าผู้ตายจะต้องทำถนนจากทางสาธารณะสู่ที่ดินที่ขายให้โจทก์ จำเลยทั้งสองเป็นบุตรอันเป็นทายาทของผู้ตายย่อมรับเอาสิทธิและหน้าที่ของผู้ตายมาด้วย จึงมีหน้าที่ต้องทำถนนและจดทะเบียนภารจำยอมให้โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายปุ๋ย จันทร์สม ขายที่ดินโฉนดที่ ๑๐๒๙๗ ให้โจทก์โดยแบ่งแยกจากที่ดินโฉนดที่ ๑๐๐๓ โดยมีข้อตกลงว่าผู้ขายจะต้องทำถนนจากทางสาธารณะสู่ที่ดินที่แบ่งขายให้โจทก์ จำเลยทั้งสองเป็นบุตรของนางปุ๋ย เมื่อนางปุ๋ยถึงแก่กรรม จำเลยที่ ๑ โอนที่ดินที่ซื้อขายให้โจทก์ แต่มิได้ทำถนนตามข้อตกลงแล้วยกที่ดินโฉนดที่ ๑๐๐๓ ให้จำเลยที่ ๒ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันสร้างถนนกว้าง ๒ เมตร ยาวประมาณ ๑๐๐ เมตร จากทางสาธารณะผ่านที่ดินโฉนดที่ ๑๐๐๓ เข้าที่ดินโฉนดที่ ๑๐๒๙๗ และให้จดทะเบียนภารจำยอมหากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน โจทก์จะเป็นผู้สร้างถนนเอง ให้จำเลยทั้งสองจ่ายค่าใช้จ่าย ๕,๐๐๐ บาท ด้วย
จำเลยทั้งสองให้การว่า นางปุ๋ยและจำเลยไม่เคยตกลงจะทำถนนเข้าที่ดินโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าใช้จ่ายในการทำถนน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ สร้างถนนจากทางสาธารณะกว้าง ๒ เมตร ยาวประมาณ ๑๐๐ เมตร จากทางสาธารณะผ่านโฉนดที่ ๑๐๐๓ ตามรูปแผนที่เอกสารหมาย จ.๔ เข้าสู่ที่ดินโจทก์ หากจำเลยที่ ๑ ไม่สร้างให้โจทก์สร้างเองโดยให้จำเลยที่ ๑ เสียค่าใช้จ่าย ๕,๐๐๐ บาท ให้จำเลยทั้งสองจดทะเบียนภารจำยอมในส่วนที่เป็นถนนบนโฉนดที่ ๑๐๐๓ หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประเด็นข้อที่ว่า โจทก์มีสิทธิขอให้จำเลยที่ ๑ สร้างถนนเข้าออกที่ดินของโจทก์ และให้จำเลยทั้งสองจดทะเบียนภารจำยอมหรือไม่ ข้อเท็จจริงที่รับกันฟังได้ว่า จำเลยทั้งสองเป็นทายาทของนางปุ๋ย นางปุ๋ยตกลงขายที่ดินให้โจทก์จริง คงได้แย้งกันเพียงว่า นางปุ๋ยได้ตกลงทำถนนให้โจทก์หรือไม่ โจทก์มีพยานคือตัวโจทก์และแพทย์หญิงศรี ศรีสุกรี เบิกความสอดคล้องต้องกันว่า โจทก์มายืมเงินแพทย์หญิงศรีจำนวนเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท เพื่อชำระราคาที่ดินให้นางปุ๋ย แพทย์หญิงศรีได้ร่างสัญญาให้ใหม่ให้นางปุ๋ยทำทางเดินให้โจทก์ด้วย ตามเอกสารหมาย จ.๓ ข้อ ๖ ว่า ผู้ขายให้สัญญาจะจัดทำถนนกว้าง ๒ เมตร จากทางสาธารณะสู่ที่ดินที่แบ่งขายตามโฉนดที่ ๑๐๐๓ ให้มีสิทธิเดินได้โดยตลอด ส่วนจำเลยมีแต่ตัวจำเลยทั้งสองเบิกความกล่าวอ้างเพียงว่า นางปุ๋ยมารดาขายที่ดินให้โจทก์ แต่จำเลยทั้งสองไม่ทราบเรื่องนางปุ๋ยจะต้องทำถนนให้โจทก์ พยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนักรับฟังได้ว่า ได้มีข้อตกลงเรื่องทำถนนกันจริง จำเลยทั้งสองเป็นบุตรอันเป็นทายาทของนางปุ๋ย ย่อมรับเอาสิทธิและหน้าที่ของนางปุ๋ยมาด้วย จึงมีหน้าที่ต้องทำถนนและจดทะเบียนภารจำยอมให้โจทก์
พิพากษายืน

Share