แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลอาจลงโทษนิติบุคคลในความผิดฐานฟ้องเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 ซึ่งมีทั้งโทษจำคุกและปรับ โดยลงโทษปรับแต่เพียงสถานเดียวได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานฟ้องเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๕
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วให้ประทับฟ้องไว้เฉพาะจำเลยที่ ๑ และที่ ๑๒ ถึงที่ ๑๔ นอกนั้นให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๑ และที่ ๑๒ ถึง ๑๔ ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๑ และที่ ๑๒ ถึง ๑๔ มีความผิดฐานฟ้องเท็จ แต่สำหรับจำเลยที่ ๑ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๕ กำหนดโทษจำคุกและปรับ ตามสภาพของจำเลยที่ ๑ เป็นนิติบุคคลไม่อาจรับโทษเช่นนี้ได้ พิพากษากลับ(น่าจะเป็นแก้) ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๑๒ ถึงที่ ๑๔ สำหรับจำเลยที่ ๑ ให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๑๒ ถึงที่ ๑๔ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๑๒ ถึงที่ ๑๔ ไม่เป็นความผิดฐานฟ้องเท็จ และเป็นเหตุในลักษณะคดี เห็นสมควรพิพากษาไปถึง จำเลยที่ ๑ ด้วย และวินิจฉัยต่อไปว่า ที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดฐานฟ้องเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๕ ด้วย แต่เนื่องจากบทมาตราดังกล่าวกำหนดโทษจำคุกและปรับ ตามสภาพของจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นนิติบุคคลไม่อาจรับโทษเช่นนี้ได้ พิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๑ นั้น เป็นการไม่ถูกต้อง เพราะศาลอาจลงโทษปรับจำเลยที่ ๑ เพียงสถานเดียวได้
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๑๒ ที่ ๑๓ และที่ ๑๔ ด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.
