คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 347/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในชั้นบังคับคดี โจทก์วายชนม์ผู้ร้องซึ่งเป็นบุตรและเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรม ย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องขอเข้ามาเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแทนโจทก์และอาจดำเนินการบังคับคดีต่อไปได้

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โจทก์จำเลยยอมให้เงินโจทก์สี่หมื่นบาท แบ่งชำระเป็น 2 งวด ๆ แรกได้ชำระไปสองหมื่นบาทแล้ว ยังเหลืออยู่อีกสองหมื่นบาท ต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องว่า โจทก์ได้ถึงแก่กรรมเสียแล้ว ก่อนตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินและสิทธิที่มีอยู่ให้แก่ผู้ร้องซึ่งเป็นบุตรคนเดียว จึงขอให้ศาลสั่งให้ผู้ร้องรับมรดกความแทนโจทก์ และมีสิทธิรับเงินจากจำเลยอีกสองหมื่นบาท ศาลชั้นต้นสั่งว่า จะขอรับมรดกความตาม มาตรา 43 หรืออย่างไร ผู้ร้องแถลงว่า ขอรับมรดกชั้นบังคับคดีตาม มาตรา 43, 57 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าการรับมรดกความตาม มาตรา 42 ต้องก่อนศาลพิพากษา จึงไม่อนุญาต

ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องของผู้ร้องไว้พิจารณา

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า สิทธิของโจทก์ในคดีนี้เกี่ยวกับการบังคับคดีมิใช่สิทธิเฉพาะตัว จึงตกทอดแก่ผู้ร้องตามพินัยกรรม ผู้ร้องจึงเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแทนโจทก์ และอาจดำเนินการบังคับคดีต่อไปได้

พิพากษายืน

Share