คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3461/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ที่ดินที่จำเลยเข้าไปยึดถือครอบครองเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกัน และจำเลยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อจำเลยเข้าไปยึดถือครอบครองก่อนวันที่ 4 มีนาคม 2515 ซึ่งเป็นวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 96 ใช้บังคับ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9, 108 ทวิ

ย่อยาว

คดีทั้งสี่สำนวนศาลชั้นต้นสั่งรวมพิจารณาพิพากษา
โจทก์ทั้งสี่สำนวนฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ กระทำความผิดเมื่อระหว่างวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๒๘ ถึงวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๒๘ และจำเลยที่ ๔ กระทำความผิดเมื่อระหว่างวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๒๘ ถึงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๒๘ โดยเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๙, ๑๐๘ ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๖ ข้อ ๑๑ ลงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๕ กับให้จำเลยทั้งสี่และบริวารออกจากที่ดินที่ยึดถือครอบครอง
จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๙, ๑๐๔ ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๙๖ ข้อ ๑๑ ลงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๕ จำคุกจำเลยทั้งสี่คนละ ๒ เดือน ปรับจำเลยที่ ๑ เป็นเงิน ๓,๖๐๐ บาท จำเลยที่ ๒ และที่ ๓ คนละ ๑,๔๐๐ บาท จำเลยที่ ๔ เป็นเงิน ๔๐๐ บาท รอการลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสี่ไว้มีกำหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ให้จำเลยและบริวารออกจากเขตที่ดินที่ยึดถือครอบครอง
จำเลยทั้งสี่อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยทั้งสี่บุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินในที่สาธารณะประโยชน์หนองขี้เห็นเป็นความผิตามฟ้องหรือไม่ แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่า ที่ดินพิพาทที่จำเลยทั้งสี่เข้าไปยึดถือครอบครองเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกัน และจำเลยทั้งสี่มิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่ก็ได้ความจากคำเบิกความของนายรอดและนายมั่นพยานโจทก์เองว่า จำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๔ บุกรุกเข้าไปปลูกปอในที่ดินพิพาทมานาน ๑๕ ปีแล้ว ส่วนจำเลยที่ ๑ ก็มีนายสี เขื่อนทอง พ่อตาของจำเลยที่ ๑ เบิกความสนับสนุนยืนยันว่าได้ยกที่ดินพิพาทให้จำเลยที่ ๑ ทำกินมานาน ๑๖ ปีแล้ว เมื่อได้ความว่าจำเลยทั้งสี่เข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทก่อนวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๑๕ ซึ่งเป็นวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๖ ใช้บังคับ จำเลยทั้งสี่จึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา ๙, ๑๐๘ ทวิ ที่โจทก์ฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องมานั้นต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share