แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2523 เวลา 9.00 น. เสมียนทนายจำเลยผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยได้ลงชื่อทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ และในวันนัดสืบพยานโจทก์เวลา 9.00 น. ปรากฏว่าทนายจำเลย มาศาลชั้นต้นแห่งเดียวกันเพื่อว่าความในคดีเรื่องอื่นหากทนายจำเลยซึ่งรู้ตระหนักถึงความสำคัญของผลคดีที่ขาดนัดพิจารณาทราบว่าศาลชั้นต้นนัดสืบพยานในคดีนี้เวลา 9.00 น. แล้ว จะต้องปลีกเวลาไปแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบถึงการติดว่าความในคดีอื่นหรือมิฉะนั้นก็ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีนี้ จึงมีเหตุผลเชื่อได้ว่าทนายจำเลยทราบเวลานัดสืบพยานโจทก์คลาดเคลื่อนจากเวลา 9.00น. เป็นเวลา 13.30 น. จริงถือว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณาและมีเหตุอันสมควรให้พิจารณาคดีใหม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ขับรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน ๕ น – ๐๒๗๘ ของจำเลยที่ ๒ และในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒โดยประมาทชนรถโจทก์เสียหาย รวมค่าเสียหายเป็นเงิน ๗๑,๔๓๒บาท โจทก์ขาดประโยชน์จากการใช้รถวันละ ๕๐๐ บาท เวลา ๖๐ วันเป็นเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท รถโจทก์เสื่อมราคาลงเป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท รวมค่าเสียหาย ๑๕๑,๔๓๒ บาท ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน ๑๑,๓๖๕บาท รวมค่าเสียหายของโจทก์ทั้งสิ้น ๑๖๒,๗๘๗ บาท จำเลยที่ ๓ เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน ๕ น – ๐๒๗๘ จากจำเลยที่ ๒ในลักษณะประกันภัยค้ำจุน โจทก์ได้ทวงถามให้จำเลยทั้งสามชำระแล้ว จำเลยไม่ยอมชำระ จึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยทั้งสามให้การว่า โจทก์มิใช่เจ้าของและผู้ครอบครองรถยนต์หมายเลขทะเบียน ๓ ก – ๕๖๐๖ ในขณะเกิดเหตุ จำเลยที่ ๑มิใช่ลูกจ้างและปฏิบัติหน้าที่ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๓ ได้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน ๕ น – ๐๒๗๘ จากบุคคลผู้มีชื่ออื่น เหตุเกิดเพราะความประมาทของผู้ขับขี่รถยนต์หมายเลขทะเบียน ๓ ก – ๕๖๐๖ ค่าเสียหายอย่างมากไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาทค่าเสื่อมราคาไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท ขอให้ยกฟ้อง
วันนัดชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นแห่งคดีให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อนในวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๓ เวลา ๙.๐๐ น. ครั้นถึงวันนัด ปรากฏว่าจำเลยทั้งสามและทนายมิได้มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยทั้งสามขาดนัดพิจารณาและดำเนินการสืบพยานโจทก์จนเสร็จแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสามแพ้คดีชำระเงินให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย
วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๓ จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องว่าจำเลยทั้งสามมิได้จงใจขาดนัด หากเกิดความเข้าใจผิดของเสมียนทนายซึ่งลงชื่อทราบวันและเวลานัดสืบพยานโจทก์ในวันชี้สองสถานเป็นวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๓ เวลา ๑๓.๓๐ น. ฯลฯ
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์คดีนี้ในวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๓ เวลา ๙.๐๐ น. นางสาวพรมิมลเสมียนทนายจำเลยทั้งสามผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยได้ลงชื่อทราบวันนัดสืบพยานโจทก์และในวันนัดสืบพยานโจทก์เวลา ๙.๐๐ น. ปรากฏว่าทนายจำเลยได้มาศาลชั้นต้นแห่งเดียวกันเพื่อว่าความคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ๔๕๘๔/๒๕๒๑ หากทนายจำเลยซึ่งย่อมรู้ตระหนักถึงความสำคัญของผลคดีที่ขาดนัดพิจารณาทราบว่าศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์คดีนี้เวลา ๙.๐๐ น. แล้ว จะต้องปลีกเวลาไปแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบถึงการติดว่าความคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ๔๕๘๔/๒๕๒๑ ของศาลชั้นต้น หรือมิฉะนั้นก็ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีนี้ ดังนี้จึงมีเหตุผลเชื่อได้ว่าทนายจำเลยทราบเวลานัดสืบพยานโจทก์คลาดเคลื่อนจากเวลา ๙.๐๐ น. ไปเป็นเวลา ๑๓.๓๐ น. จริง คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๖๖๙/๒๕๑๗ ระหว่างธนาคารกรุงเทพ จำกัดฯ โจทก์ บริษัทภูเก็ตการเชื้อเพลิง จำกัด กับพวก จำเลย ที่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นอ้างประกอบคำวินิจฉัยข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้เพราะมิใช่เหตุไม่ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ เนื่องจากบุคคลอื่นรับหมายไว้แทนมิได้บอกให้ทราบจำเลยทั้งสามจึงมิได้จงใจขาดนัดพิจารณาและมีเหตุอันสมควรให้พิจารณาคดีใหม่
พิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี