คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 345/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดูแลปกครองรักษาไว้โดยปลอดภัยซึ่งเอกสารราชการ และเอกสารสิทธิทั้งปวงอันเกี่ยวกับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินของประชาชน จำเลยได้ลักลอบเอาเอกสารซึ่งจำเลยมีหน้าที่ดูแลรักษาออกจากตู้เก็บเอกสารไปบางฉบับ แล้วนำไปให้ ส. ทนายความตรวจดูนอกสถานที่ราชการ และจำเลยได้ปลอมเอกสารนั้นเช่นนี้เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดรวมทั้งแก่ทางราชการด้วยแล้ว จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย (นอกจากจะผิดตามมาตรา158 และมาตรา 266 แล้ว)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องใจความว่า จำเลยทั้งสองกล่าวคือ

(ก) ขณะกระทำผิด จำเลยที่ 1 รับราชการตำแหน่งเสมียนพนักงานประจำแผนกที่ดินอำเภอบ้านไผ่ มีหน้าที่ร่วมกับเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น และมีหน้าที่ร่วมกันกับข้าราชการประจำแผนกที่ดินอำเภอบ้านไผ่คนอื่น ๆในการดูแลปกครองรักษาไว้ โดยปลอดภัยซึ่งเอกสารราชการและเอกสารสิทธิซึ่งเป็นเอกสารราชการทั้งปวงอันเกี่ยวกับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินของประชาชนซึ่งเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานที่แผนกที่ดิน อำเภอบ้านไผ่ จำเลยที่ 1 ได้บังอาจปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต โดยจำเลยที่ 1ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 นางทอง พรเทพ และนางแก้ว มาซา บังอาจลักลอบเอาไปเสียซึ่งเอกสารเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและการสอบสวนสิทธิในที่ดิน ซึ่งเป็นเอกสารอันเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอบ้านไผ่กระทำขึ้นเป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการอันเกี่ยวกับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมไถ่ถอนการขายฝากที่ดินและการขายฝากที่ดินและเอกสารดังกล่าวได้เก็บรักษาไว้ในตู้เก็บเอกสารที่แผนกที่ดินอำเภอบ้านไผ่ และอยู่ในอำนาจหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ดูแลรักษาปกครองไว้โดยปลอดภัย จำเลยทั้งสองกับพวกดังกล่าวแล้วได้บังอาจร่วมกันลักลอบนำเอาเอกสารทั้ง 3 ฉบับดังกล่าวออกไปจากตู้เก็บเอกสารของแผนกที่ดิน อำเภอบ้านไผ่เพื่อนำเอาไปร่วมกันขูดลบปลอมแปลงลายพิมพ์นิ้วมือของนางทอง พระเทพซึ่งได้พิมพ์ไว้ในเอกสารนั้น ๆ และเพื่อขูดปลอมแปลงลายเซ็นชื่อของนางแก้วซึ่งได้เซ็นชื่อไว้ในเอกสารนั้น ๆ เป็นการกระทำให้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการเสียหายและไร้ประโยชน์ในการที่จะถูกนายเกรียงศักดิ์ สุพรรณทัศน์นำไปอ้างอิงเป็นพยานหลักฐานต่อไปได้ การกระทำของจำเลยที่ 1 ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานเป็นการปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าพนักงานที่ดิน อำเภอบ้านไผ่และนายเกรียงศักดิ์

(ข) ระหว่างเวลาดังกล่าว เมื่อจำเลยทั้งสองกับนางทอง พระเทพและนางแก้วได้ร่วมกันลักลอบนำเอาเอกสารออกไปจากตู้เก็บเอกสารของแผนกที่ดินอำเภอบ้านไผ่แล้ว จำเลยทั้งสองกับพวกได้บังอาจร่วมกันขูดลบปลอมแปลงบางส่วนของเอกสารทั้ง 3 ฉบับดังกล่าวซึ่งเป็นเอกสารอันแท้จริง ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1และที่ 2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 158, 159, 264, 265, 266,83, 86, 90 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2502มาตรา 13 และลงโทษจำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 83อีกโสดหนึ่งด้วย

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ เมื่อสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว จำเลยที่ 1ขอให้การรับสารภาพตามฟ้อง ขอถอนคำให้การที่ได้ปฏิเสธไว้เดิม

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 264 ประกอบ 266 และ 86 ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้จำคุกไว้มีกำหนด 5 ปี แต่คำรับสารภาพของจำเลยมีประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีมาก มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 83 ให้จำคุกไว้คนละ 4 เดือน ส่วนความผิดนอกจากที่กล่าวมานี้ให้ยกเสีย

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158, 266 ให้ลงโทษตามมาตรา 266 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1สองปี จำเลยที่ 1 รับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดตามมาตรา 157ด้วย กรณีของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท คือผิดมาตรา 158 ซึ่งเป็นบทความผิดต่อการกระทำโดยเฉพาะของจำเลยและผิดตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทบัญญัติต่อการกระทำอย่างกว้างอีกด้วย ขอให้ลงโทษตามมาตรา 157 อีกบทหนึ่ง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายมีหน้าที่ดูแลปกครองรักษาไว้โดยปลอดภัยซึ่งเอกสารราชการและเอกสารสิทธิทั้งปวงอันเกี่ยวกับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินของประชาชน จำเลยที่ 1 ได้ลักลอบเอาเอกสารซึ่งจำเลยมีหน้าที่ดูแลรักษาออกจากตู้เก็บเอกสารไปบางฉบับ แล้วนำไปให้นายสังข์ทนายความตรวจดูนอกสถานที่ราชการ และจำเลยที่ 1 ได้ปลอมเอกสารนั้น เช่นนี้เห็นได้ว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งรวมทั้งแก่ทางราชการด้วยแล้ว การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share