คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างทำงานในโรงแรมที่จำเลยที่ 2 และที่ 7 เป็นหุ้นส่วน โรงแรมดังกล่าวมีบริการผู้มาพักโดยรับฝากเช็คจากผู้มาพักแล้วนำไปซื้อดราฟท์ส่งให้ผู้ทรงเช็คที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ในการนี้ จำเลยที่ 2 ที่ 7 ยอมให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้รับฝากเช็คของผู้มาพักโดยออกใบรับเช็คให้ ตามพฤติการณ์ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 2 ที่ 7 เมื่อปรากฏว่าเช็คของโจทก์ที่จำเลยที่ 1 รับฝากไว้เกิดสูญหายไป ทำให้โจทก์สูญเสียเงินตามเช็คเพราะธนาคารจ่ายเงินตามเช็คให้ผู้อื่นไป จำเลยที่ 2 ที่ 7 จะยกข้ออ้างว่า ตนให้อำนาจจำเลยที่ 1 รับฝากเช็คได้ไม่ถึงจำนวนเงินตามเช็คของโจทก์ขึ้นโต้เถียงกับโจทก์หาได้ไม่ จำเลยที่ 2 ที่ 7 ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเท่ากับจำนวนเงินตามเช็คที่รับฝากไว้นั้นแก่โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2 ถึงที่ 7 เข้าหุ้นส่วนดำเนินกิจการโรงแรมหอฟ้าโดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการ มีจำเลยที่ 1 เป็นผู้ดูแลกิจการ นายจังกินลิดตัวแทนโจทก์ได้นำเช็คธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ จำกัด สาขาจังหวัดพิษณุโลกสั่งจ่ายเงินจำนวน 174,000 บาท ซึ่งลูกค้าออกให้โจทก์ไปฝากกับจำเลยที่ 1และจำเลยที่ 1 รับฝากไว้แทน จำเลยที่ 2 ถึงที่ 7 กับได้ออกใบรับของโรงแรมให้นายจังกินลิด ต่อมาจำเลยที่ 1 ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 7ได้ยักยอกเช็คของโจทก์ดังกล่าวและธนาคารจ่ายเงินตามเช็คไปแล้ว ขอศาลบังคับจำเลยร่วมกันหรือแทนกันชำระเงิน 174,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

โจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 1 ไม่ได้และไม่แถลงให้ศาลทราบที่อยู่ของจำเลยที่ 1 ภายในเวลาที่กำหนด ส่วนจำเลยที่ 3 ที่ 5 ที่ 6ขาดนัดยื่นคำให้การ แต่โจทก์ไม่ยื่นคำขอต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเฉพาะตัวจำเลยเหล่านี้ กับโจทก์ได้ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 4 ศาลชั้นต้นอนุญาต

จำเลยที่ 2 ที่ 7 ให้การอย่างเดียวกันว่า จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการโรงแรมหอฟ้า ซึ่งมีจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้าง นายจังกินลิดได้ฝากเช็คไว้กับจำเลยที่ 1 จริง แต่จำเลยที่ 1 กับนายจังกินลิดสมคบกันนำเช็คไปแลกเอาเงินสดมาเป็นประโยชน์ส่วนตัวและจำเลยที่ 1 กระทำนอกเหนือ ทางการที่จ้างในโรงแรมหอฟ้าโดยรับฝากเช็คเกินกว่าวงเงินที่ให้อำนาจรับฝากได้ และจะต้องเป็นเช็คที่ถึงกำหนดชำระภายใน 3-4 วันเพื่อนำไปซื้อตั๋วแลกเงินของธนาคารส่งไปให้ผู้ทรงเช็คที่อยู่กรุงเทพมหานครโดยไม่คิดผลประโยชน์ เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าเช็คสั่งจ่ายเงินจำนวนมากเช่นนี้ผู้ฝากควรจะขีดคร่อมเช็ค หรือขีดฆ่าคำว่าผู้ถือออกเสีย กำหนดเวลาใช้เงินตามเช็คเกือบ 1 เดือน การที่ผู้ฝากไม่กระทำการดังกล่าวแสดงว่าไม่สุจริตหรือเป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้ฝากจำเลยไม่ต้องรับผิด

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ที่ 7 ร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินให้โจทก์จำนวน 177,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย

จำเลยที่ 2 ที่ 7 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 2 ที่ 7 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 ที่ 7 ฎีกาว่า จำเลยที่ 1 ได้รับฝากเช็คของโจทก์จากนายจังกินลิดผู้นำเข้ามาพักในโรงแรมหอฟ้าเกินกว่าวงเงินที่มอบอำนาจให้ จำเลยที่ 2 ที่ 7 ไม่ต้องรับผิด ข้อนี้ได้ความว่าโรงแรมหอฟ้ามีบริการผู้มาพักโดยรับฝากเช็คแล้วนำไปซื้อดราฟท์ส่งให้ผู้ทรงเช็คที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร จำเลยที่ 2 ที่ 7 ยอมให้จำเลยที่ 1 ลูกจ้างในโรงแรมหอฟ้าเป็นผู้บริการรับฝากเช็คของผู้มาพักโรงแรมได้โดยออกใบรับเช็ค นายจังกินลิดผู้ฝากเช็คของโจทก์ในคดีนีไว้กับจำเลยที่ 1 เคยมาพักที่โรงแรมหอฟ้า และฝากเช็คกับจำเลยที่ 1 มาก่อนหลายครั้ง เท่ากับจำเลยที่ 2 ที่ 7 เชิดจำเลยที่ 1ออกเป็นตัวแทนในการรับฝากเช็คทำให้นายจังกินลิดผู้มาพักโรงแรมของจำเลยที่ 2 ที่ 7 เข้าใจว่าจำเลยที่ 1 มีอำนาจรับฝากเช็คได้ เมื่อจำเลยที่ 1เป็นตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 2 ที่ 7 จำเลยที่ 2 ที่ 7 จะยกข้ออ้างว่าให้อำนาจจำเลยที่ 1 รับฝากเช็คได้ไม่ถึงจำนวนเงินตามเช็คของโจทก์นั้นขึ้นโต้เถียงกับโจทก์หาได้ไม่ การรับฝากเช็คของจำเลยที่ 1 ผูกพันจำเลยที่ 2 ที่ 7เมื่อเช็คของโจทก์ที่ฝากหายทำให้โจทก์สูญเสียเงินตามเช็คเพราะธนาคารจ่ายเงินตามเช็คให้ผู้อื่นไปเพราะการกระทำของจำเลยที่ 1 เช่นนี้ จำเลยที่ 2ที่ 7 ต้องรับผิดชอบในความผิดของจำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าเสียหายคือจำนวนเงินตามเช็คที่รับฝากไว้นั้นแก่โจทก์

พิพากษายืน

Share