คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องโจทก์บรรยายในชั้นต้นว่า จำเลยบังอาจทำหนังสือมอบอำนาจขายที่ดินปลอม แล้วตอนท้ายบรรยายว่า ดังปรากฎตามสำเนาเอกสารปลอมท้ายฟ้อง ซึ่งจำเลยเป็นผู้ปลอมเอง หรือผู้อื่นทำปลอมขึ้น ดังนี้ เมื่อหนังสือปลอมอยู่ในความครอบครองของจำเลยๆ ย่อมรู้ดีว่าจำเลยเองหรือผู้ใดเป็นผู้ปลอมขึ้นและจำเลยได้ใช้หนังสือปลอมนั้นจำเลยย่อมรู้ที่มาของหนังสือปลอมได้ดี ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้หรือเสียเปรียบในทางอรรถคดีจึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

ย่อยาว

คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๐๔,๓๐๖,๑๑๘,๒๒๖,๒๒๗,๒๒๒,๒๒๔, จำคุก ๓ ปี ลด ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๒ ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลสั่งรับเฉพาะข้อกฎหมายว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ตามฟ้องโจทก์บรรยายว่า ” ฯลฯ จำเลยบังอาจทำหนังสือมอบอำนาจขายที่ดิน ลงวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๔๙๔ ฉบับหนึ่งซึ่งเป็นหนังสือสำคัญปลอม โดยปลอมลายมือชื่อนายโต๊ะ เอื้อเฟื้อ เป็นผู้มอบอำนาจ และมีความว่านายโต๊ะ เอื้อเฟื้อมอบให้จำเลยเป็นผู้มีอำนาจจัดการขายที่ดินแปลงข้างบน คือโฉนดหมายเลขที่ ๔๒๗๐ ตำบลบางแค อำเภอภาษีเจริญ จึงหวัดธนบุรี อันเป็นที่ดินของนายโต๊ะ เอื้อเฟื้อให้แก่จำเลย ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจเอง ดังปรากฎตามสำเนาเอกสารปลอมท้ายฟ้อง ซึ่งจำเลยเป็นผู้ทำปลอมเองหรือผู้อื่นทำปลอมขึ้น ฯลฯ ” ดังนี้เห็นว่า หนังสือปลอมอยู่ในความครอบครองของจำเลย ๆ ย่อมรู้ดีว่า จำเลยเองหรือผู้ใช้ปลอมขึ้น และจำเลยได้ใช้หนังสือปลอมนั้น จำเลยย่อมรู้ที่มาของหนังสือปลอมได้ดี ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้หรือเสียเปรียบในทางอรรถคดีแต่ประการใด ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม จึงพิพากษายืน

Share