คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3426/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ค. ทนายจำเลยมาศาลในวันนัดชี้สองสถาน ศาลกำหนดวันนัดสืบพยานและ ค. ลงลายมือชื่อไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาแล้ว แม้จำเลยไม่ได้มาศาลก็ต้องถือว่าจำเลยทราบวันนัดสืบพยานแล้ว การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่โดยอ้างว่า หลังจากศาลทำการชี้สองสถานแล้วจำเลยได้แต่งตั้ง ว. เป็นทนายความคนใหม่ จำเลยบอกกำหนดนัดสืบพยานแก่ ว.ผิดพลาดเป็นเหตุให้ว. มาศาลไม่ทันตามกำหนดนัดนั้นเป็นความบกพร่องของจำเลยเอง แม้จะไต่สวนได้ความตามคำร้องก็ถือว่าเป็นการขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ ศาลจึงยกคำร้องได้โดยไม่ต้องทำการไต่สวน.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิจารณาคดีฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินแก่โจทก์ หากไม่ชำระให้จำเลยที่ 2 ชำระแทนจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่าไม่จงใจขาดนัดพิจารณา ขอให้พิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาของจำเลยทั้งสองว่าการที่จำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณานั้น ตามคำร้องของจำเลยทั้งสองมีเหตุสมควรที่จะพิจารณาใหม่หรือไม่ เห็นว่า ในวันนัดชี้สองสถานนายครรชิต ภิรมย์กิจ ซึ่งเป็นทนายความของจำเลยทั้งสองในขณะนั้นมาศาล ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทแล้วให้โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อนโดยนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 17 ธันวาคม 2530 เวลา 9 นาฬิกาและนายครรชิตได้ลงลายมือชื่อไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นแล้ว เช่นนี้ แม้จำเลยทั้งสองไม่ได้มาศาลในวันนัดชี้สองสถานก็ต้องถือว่าจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นตัวความได้ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ด้วยแล้ว ที่จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่โดยอ้างว่าหลังจากศาลทำการชี้สองสถานแล้ว จำเลยทั้งสองได้แต่งตั้งนายวราวุฒิหน่อคำ เป็นทนายความคนใหม่ จำเลยทั้งสองได้บอกแก่นายวราวุฒิว่าศาลนัดสืบพยานโจทก์ วันที่ 17 ธันวาคม 2530 เวลา 13.30 นาฬิกาเป็นเหตุให้นายวราวุฒิมาศาลไม่ทันตามกำหนดนัดของศาลนั้นเป็นความบกพร่องของจำเลยทั้งสองเอง แม้จะไต่สวนได้ความตามคำร้องก็ถือว่าเป็นการขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องโดยไม่ทำการไต่สวนจึงชอบแล้ว
พิพากษายืน.

Share