แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หนังสือมอบอำนาจที่โจทก์มอบอำนาจให้บุคคลอื่นฟ้องคดีแทนโจทก์ เมื่อไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ตามนัยประมวลรัษฎากร มาตรา 104 ที่บัญญัติให้ปิดอากรแสตมป์ในตราสารตามบัญชีอากรแสตมป์ ข้อ 7 (ก) ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 หนังสือมอบอำนาจเป็นตราสารอย่างหนึ่ง เมื่อจำเลยต่อสู้เรื่องการมอบอำนาจ มาตรา 118 หนังสือมอบอำนาจเป็นตราสารอย่างหนึ่ง เมื่อจำเลยต่อสู้เรื่องการมอบอำนาจและเมื่อรับฟังเอกสารนั้นเป็นพยานหลักฐานมิได้แล้ว ก็ต้องถือว่าบุคคลนั้นไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดที่ ๑๒๑๖ ตำบลชักพระ (ตลิ่งชัน) อำเภอตลิ่งชัน จังหวัดธนบุรี เนื้อที่ ๒ งาน ๙๐ วา โจทก์ได้ครอบครองปลูกบ้านและทำสวนผลไม้ ที่ดินดังกล่าวมีอาณาเขตทิศตะวันตกเฉียงใต้จดที่ดินของจำเลยที่ ๑ โฉนดเลขที่ ๑๒๑๕ และ ๑๒๑๗ โจทก์ได้ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานที่ดินขอให้ตรวจสอบแนวเขตที่ดินตามโฉนดของโจทก์ จำเลยที่ ๑ ตั้งตัวแทนมาระวังแนวเขต แต่ตัวแทนไม่รับรอง กลับขอให้งดการรังวัดไว้ก่อน เพราะจำเลยที่ ๑ จะขอให้เจ้าพนักงานที่ดินตรวจสอบแนวเขตด้วย เจ้าพนักงานที่ดินจึงงดไว้ แต่แล้วจำเลยที่ ๑ ไม่ขอให้เจ้าพนักงานที่ดินตรวจสอบแนวเขต การกระทำของจำเลยเป็นการหน่วงเหนี่ยวมิให้โจทก์ตรวจสอบเขตที่ดิน ต่อมาเมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๑๔ จำเลยทั้งสองร่วมกันจ้างวานคนของจำเลยทำรั้วสังกะสีและรั้วลวดหนามตามเส้นสีเขียวรุกล้ำที่ดินโจทก์ซึ่งโจทก์ปกครองอยู่ตามเส้นสีแดงในแผนที่สังเขปท้ายฟ้อง กว้าง ๑ เมตร ยาว ๒ เส้น เนื้อที่ ๑๐ ตารางวา ราคา ๔,๐๐๐ บาท ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้จำเลยทั้งสองรื้อถอนรั้วสังกะสีและรั้วลวดหนามที่รุกล้ำที่ดินโจทก์จนกว่าจะชำระเสร็จ ให้จำเลยทั้งสองรื้อถอนรั้วสังกะสีและรั้วลวดหนามที่รุกล้ำที่ดินโจทก์ออกไปให้พ้นเส้นสีแดงตามแผนที่ท้ายฟ้อง ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องขัดขวางในการที่โจทก์จะนำช่างแผนที่ทำการรังวัดที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๒๑๖ ของโจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า นายถนอม พัฒนศิริ ไม่ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ฟ้องคดีนี้ สำเนาหนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องไม่มีต้นฉบับ และเคลือบคลุม โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง และต่อสู้คดีอีกหลายประการ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่าหนังสือมอบอำนาจหมาย จ.๑ ที่มอบอำนาจให้นายถนอม พัฒนศิริ ฟ้องคดีนี้ ไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๑๐๔ ใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ ตามมาตรา ๑๑๘ รับฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้นายถนอมฟ้องคดีนี้แทน พิพากษายกฟ้อง ไม่จำเป็นต้องพิจารณาประเด็นอื่น
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า หนังสือมอบอำนาจหมาย จ.๑ ที่โจทก์มอบอำนาจให้นายถนอม พัฒนศิริ ฟ้องคดีแทนนั้น ไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ ซึ่งตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๑๐๔ บัญญัติให้ปิดอากรแสตมป์บนตราสารตามบัญชีอากรแสตมป์ ข้อ ๗ (ก) มิฉะนั้นจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๑๑๘ หนังสือมอบอำนาจหมาย จ.๑ เป็นตราสารอย่างหนึ่ง เมื่อไม่ปิดอากรแสตมป์ตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ ฉะนั้นเมื่อจำเลยต่อสู้ว่านายถนอม พัฒนศิริ ไม่ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ฟ้องคดีนี้และเมื่อรับฟังเอกสารหมาย จ.๑ มิได้ จึงฟังไม่ได้ว่า โจทก์มอบอำนาจให้นายถนอม พัฒนศิริ เป็นผู้แทนในคดีนี้ นายถนอมไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้แทนโจทก์
พิพากษายืน