แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดฐานให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์แก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 จะต้องเป็นเรื่องให้หรือขอให้ทรัพย์สินแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการหรือไม่กระทำการหรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้นั้นเอง การที่จำเลยให้เงินกำนันเพื่อให้กำนันช่วยเหลือไปติดต่อกับเจ้าพนักงานอำเภอหรือพนักงานอสบสวนให้กระทำการให้คดีของจำเลยเสร็จไปในชั้นอำเภออย่างให้ต้องถึงฟ้องศาลเนื่องจากกำนันรายงานกล่าวโทษจำเลยไปอำเภอ และอำเภอเรียกพยานทำการสอบสวนไปแล้ว ดังนี้ เป็นการพ้นอำนาจหน้าที่ของกำนันแล้ว จำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานให้ทรัพย์สินแก่เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันให้เงินแก่นายนวมกำนัน ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้นามนวมกำนันละเว้นไม่ให้กระทำการตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๔, ๘๓ และขอให้ริบเงินของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยขอให้เงินนายนวมกำนัน ๗๐๐ บาท โดยทำเป็นบันทึกตกลงไว้ แล้วจำเลยทั้ง ๒ นำเงินจำนวนนั้นไปให้นายนวมในวันรุ่งขึ้น เพื่อให้นายนวมช่วยเหลือไปติดต่อกับทางอำเภอเพื่อให้คดีที่นายนวมกล่าวโทษจำเลยกับพวกประกอบโรคศิลปะทำการคลองบุตรนางตุ้มไม่รับอนุญาต เป็นเหตุให้นางตุ้มตายโดยประมาทนั้นเสร็จไป อย่างให้ต้องฟ้องถึงศาล และอย่าให้นายนวมกำนันนำพยานหลักฐานไปแสดงต่อไป ทั้งนี้โดยนายนวมกำนันได้รายงานกล่าวโทษจำเลยไปอำเภอ และอำเภอได้เรียกพยานทำการสอบสวนไปแล้ว
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยทั้งสอง ไม่ผิดตามมาตรา ๑๔๔ พิพากษาษยกฟ้อง แต่ให้ริบเงินของกลาง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าว “เป็นเรื่องที่เห็นได้ว่าจำเลยให้เงินนายนวมกำนันให้ช่วยเหลือติดต่อเจ้าพนักงานผู้อื่นซึ่งมีอำนาจหน้าที่กระทำการในคดีของจำเลยชั้นอำเภอให้กระทำการให้เป็นคุณแก่จำเลย ดังนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยศาลอุทธรณ์ว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๔ เพราะความผิดตามมาตรานี้ที่เกี่ยวกับเจ้าพนักงาน เป็นเรื่องให้หรือขอให้ทรัพย์สินแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการหรือไม่กระทำการหรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ซึ่งอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานผู้นั้นเอง ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ชอบแล้ว” พิพากษายืน