แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลพิพากษาให้จำเลยทำสัญญาจำนองแก่โจทก์และได้ออกคำบังคับแล้ว แต่ก่อนได้รับคำบังคับศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดในคดีล้มละลายดังนี้ โจทก์จะขอ ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปทำสัญญาจำนองแทนจำเลยไม่ได้ เพราะการบังคับคดียังไม่สำเร็จบริบูรณ์ก่อนวันที่ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ จึงใช้ยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 110
ย่อยาว
เดิมศาลพิพากษาให้จำเลยทำสัญญาจำนองโรงเลื่อยเป็นประกันหนี้แก่โจทก์ ถ้าไม่ทำ ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา และจำเลยได้รับคำบังคับแล้ว แต่ก่อนได้รับคำบังศาลแพ่งสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดในคดีล้มละลาย และหมายตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้ว
โจทก์จึงยื่นคำร้องว่าคำบังคับคดีนี้ไม่สามารถกระทำได้เพราะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้เดียวมีอำนาจหน้าที่ในการจัดการทรัพย์สินของจำเลย จึงขอให้ศาลแจ้งไปยังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาแทนจำเลย
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์คัดค้านว่า การบังคับคดียังไม่เสร็จก่อนมีการพิทักษ์ทรัพย์ จึงใช้ยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้ตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๑๐
ศาลชั้นต้นสั่งตามคำแถลงของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า หมายบังคับคดีที่จะใช้ยันแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้ตาม ระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๑๐ นั้น หมายความถึงการที่จะออกหมายบังคับให้เกิดผลแต่ทรัพย์สินของลูกหนี้อย่างใดอย่างหนึ่ง คำพิพากษาที่ให้จำเลยทำสัญญาจำนองแก่โจทก์ ก็คือ หมายถึงการบังคับให้จำเลยเอาทรัพย์สินตราไว้เป็นประกันการชำระหนี้ของโจทก์ จึงเป็นกรณีที่จะต้องมีหมายบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามความในมาตรา ๑๑๐ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย เมื่อการบังคับคดียังไม่สำเร็จบริบูรณ์ก่อนวันที่ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ก็ใช้ยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้
พิพากษายืน