แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีเรื่องลักทรัพย์ ศาลสืบพะยานโจทก์เพียงปากเดียวได้ความว่าเรื่อที่หายเจ้าทรัพย์เช่าผู้อื่นมา ไม่ได้ความว่าจำเลยหลงต่อสู้ดังนี้ ยังไม่พอให้ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง จะยกฟ้องไม่ได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่ากล่าวว่าคนร้ายลักเรือ+ของเจ้าทรัพย์ไป ต่อมาพบจำเลยนั่งอยู่ในเรือลำที่หาย ขอให้ลงโทษ ศาลชั้นต้นสืบเจ้าทรัพย์เป็นพะบานปรากฏว่าเรือลำที่หายนั้นเช่าผู้อื่นมา จึงสั่งงดสืบพะยาน วินิจฉัยว่าเรือที่หายเป็นของผู้อื่น ผิดกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าเป็นของเจ้าทรัพย์ให้ยกฟ้อง.
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าแม้ทรัพย์ที่หายไม่ใช่ของเจ้าทรัพย์ หากเป็นทรัพย์ที่เช่าผู้อื่นมาอยู่ในความครอบครองของเจ้าทรัพย์ เป็นข้อผิดกันเพียงเล็กน้อย ไม่เป็นเหตุถึงกับให้ยกฟ้องตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๙๒ วรรค ๒ พิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาต่อไป.
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าการที่โจทก์ฟ้องว่าเรือของเจ้าทรัพย์หายโดยมีคนร้ายลัก ฯลฯ เจ้าทรัพย์มาเป็นพะยานโจทก์ว่าเรือที่ถูกลักได้เช่ามาจากผู้อื่น เช่นนี้ คดียังไม่มีเหตุเพียงพอที่จะให้ยกฟ้องเสียทันที เพราะอย่างไรก็ได้ความว่าเรือที่หายก็อยู่ในความครอบครองของเจ้าทรัพย์ และไม่ได้ความว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้แต่อย่างใด จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์