แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ต่างคนต่างสูบฝิ่นเป็นการที่ต่างคนต่างกระทำผิดไม่เรียกว่าสมคบกัน จะปรับรวมกันไม่ได้ ต้องปรับเรียงตัว
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องเป็น ๒ ตอนว่า ม.จำเลยได้บังอาจมีกล้องสูบฝิ่นกับมีฝิ่น แลในเวลาเดียวกันจำเลยทุกคนได้สมคบกันสูบฝิ่นนอกโรงโดยมิได้รับอนุญาต จึงขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ฝิ่น พ.ศ.๒๔๗๒ มาตรา ๕๓ – ๖๖
ศาลเดิมให้ปรับจำเลยตามพ.ร.บ.ฝิ่น ม.๕๓ แลให้ปรับ ม. ตาม ม.๖๖ แต่ให้ลดเสียกึ่งหนึ่งตามกฎหมายลักษณอาชญามาตรา ๕๙ คงปรับจำเลยรวมกัน ๑๓๖ บาท ๕๐ สตางค์ แลปรับ ม.อีก ๒๐ บาท
ศาลอุทธรณ์ให้ปรับ มุษผู้เดียว ๑๓๖ บาท ๕๐ สตางค์ ส่วนจำเลยอื่นมีผิดฐานสูบฝิ่นให้ ปรับคนละ ๒๕ บาท
จำเลยทั้ง ๕ คนนอกจาก ม.ฎีกาว่าศาลอุทธรณ์ปรับเรียงตัวเป็นการผิดกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยทุกคนให้การรับสารภาพตามโจทก์ฟ้อง จึงต้องฟังว่า ม. ผู้เดียวมีผิดฐานมีฝิ่น มีกล้องสูบฝิ่น แลฐานสูบฝิ่นนอกโรงตามมาตรา ๕๓-๖๖-๕๕ ส่วนจำเลยอื่นอีก ๕ คนมีผิดฐานสูบฝิ่นนอกโรงตามมาตรา ๕๕ ซึ่งเป็นการต่างคนต่างกระทำผิดจะปรับรวมกันไม่ได้จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์