คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3414/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีความผิดเกี่ยวกับการใช้เช็คซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี โจทก์ไม่จำต้องสืบพยานประกอบคำให้การรับสารภาพของจำเลย แม้เป็นกรณีที่จำเลยให้การรับสารภาพเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว ข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญอันเป็นองค์ประกอบของความผิดก็ต้องรับฟังเป็นยุติดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ รวม ๔ กระทง
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว จำเลยขอถอนคำให้การเดิมและขอให้การใหม่เป็นรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ มาตรา ๔ ให้เรียงกระทงลงโทษ ความผิดสามกระทงแรก จำคุกกระทงละ ๑๐ เดือน กระทงที่สี่จำคุก ๑ ปี รวมวางโทษจำคุก ๓ ปี ๖ เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่ง คงลงโทษจำคุก ๑ ปี ๙ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษสำหรับความผิดสามกระทงแรกให้จำคุกกระทงละ ๑๐ เดือน กระทงที่สี่จำคุก ๑ ปี รวมเป็นจำคุก ๓ ปี ๖ เดือน ลงโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก ๑ ปี ๙ เดือน นั้น ขัดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๑ วรรคสอง พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดสามกระทงแรกให้จำคุกกระทงละ ๑๐ เดือน ความผิดกระทงที่สี่ให้จำคุก ๑ ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ โทษในความผิดสามกระทงแรกจำคุกกระทงละ ๕ เดือน โทษกระทงที่ ๔ จำคุก ๖ เดือน รวมโทษทั้งสี่กระทงเป็นจำคุก ๒๑ เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้จำเลยฎีกาแต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายสำหรับข้อเท็จจริงนั้น คดีนี้เป็นคดีที่มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี โจทก์ไม่จำต้องสืบพยานประกอบคำให้การรับสารภาพของจำเลย ดังนั้น เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง แม้จะเป็นกรณีที่จำเลยให้การรับสารภาพเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว ข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญอันเป็นองค์ประกอบของความผิดก็ต้องรับฟังเป็นยุติดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ดังนั้น ที่จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินแก่ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้ แต่ทางพิจารณาได้ความว่าผู้เสียหายได้รับเช็คมาจากนางวรรณวรางค์ วรรณศิริจีรัง ซึ่งนำมาแลกเงินสดจากผู้เสียหาย เป็นการแตกต่างกันในสาระสำคัญจึงฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share