คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การนำไม้เคลื่อนที่ที่จะต้องมีใบเบิกทางตามความใน ม.39 นั้นคือการนำเคลื่อนที่ตามที่บัญญัติไว้ใน ม.38
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยนำไม้สักเคลื่อนที่โดยไม่มีใบเบิกทางตาม ม. 39 แต่ตามฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฎข้อความตาม ม.38 แต่ประการใดเลยดังนี้ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันนำไม้สักแปรรูปขนาดต่าง ๆมีเนื้อไม้ ๓.๔๗ เมตรลูกบาศก์ เคลื่อนที่จากตำบลมะกอก อำเภอป่ายาง จังหวัดลำพูน ผ่านตำบลป่าขาง อำเภอป่าขาง จังหวัดลำพูน เพื่อไปยังตำบลปากบ่อง อำเภอป่าขาง จังหวัดลำพูน โดยไม่มีใบเบิกทาง ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๖๓ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ ม.๓๙,๗๑ กฎกระทรวงเกษตรออกตามความใน พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ (ฉบับที่ ๔) ว่าด้วยการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ ข้อ๑ (๑) ,(๒)
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้กระทำผิด ไม้ของกลางเป็นไม้ที่ชอบด้วย ก.ม. มิใช่ไม้หวงห้ามและเป็นไม้ของจำเลยที่ ๑ แม้จะนำเคลื่อนที่ก็ไม่ผิด
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอพิพากษาได้แล้วงดสืบพยานโจทก์จำเลย วินิจฉัยว่าโจทก์มิได้บรรยายตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ ม.๓๘ จำเลยไม่อาจจะเข้าใจข้อหาได้ ไม่ชอบด้วย ป.วิ.แห่ง ม.๑๕๘ (๕) พิพากษายกฟ้องโจทก์ปล่อยจำเลย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ม.๓๙ แห่ง พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ เป็นบทบังคับที่บัญญัติไว้เป็นหลัก มีข้อกำหนดและบทลงโทษสำเร็จบริบูรณ์ในตัวเอง ไม่ต้องอาศัยมาตราอื่น องค์ความผิดตามมาตรานี้จึงเป็นคนละส่วนกับ ม. ๓๘ ฟ้องโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาได้พิจารณา ม.๓๘,๓๙ แล้วเห็นว่าผู้ใดจะนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่จะต้องมีใบเบิกทางกำกับไปด้วยตามความใน ม.๓๙ ก็ต่อเมื่อปรากฎความตามที่กล่าวไว้ใน ม.๓๘ ข้อ ๑ หรือ ๒ กล่าวคือจะต้องปรากฎว่าจะนำเคลื่อนที่ต่อไปภายหลังที่นำออกตามใบอนุญาตไปถึงอันระบุไว้ในใบอนุญาตแล้วตามข้อ ๑ หรือนำไม้ที่นำออกโดยไม่ต้องรับอนุญาตไปถึงด่านป่าไม้ด่านแรกแล้วตาม ข้อ ๒ ตามฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฎข้อความตาม ข้อ๑ หรือ ข้อ ๒ ของ ม.๓๘ แต่ประการใด
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share