คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3408/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ ทั้งที่จำเลยทราบนัดโดยชอบแล้ว แต่ศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งแสดงว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา ให้พิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียวตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 202 ดังนั้นการที่ศาลมีคำสั่งให้นัดสืบพยานโจทก์และนัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งต่อไป และมีคำพิพากษาคดีนี้มา จึงเป็นการที่ศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยการพิจารณา และปัญหานี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยจะมิได้โต้แย้งการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลในเรื่องนี้ไว้ จำเลยก็มีสิทธิยกปัญหานี้ขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คจำนวน 2 ฉบับซึ่งได้รับชำระหนี้จากนายเทียนชัย มีจำเลยลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่าย เมื่อเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินแต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามเช็คแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์มิใช่ผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย โจทก์สมคบกับนายเทียนชัยโดยไม่สุจริตคบคิดฉ้อโกงจำเลย รับโอนเช็คพิพาทโดยรู้อยู่ว่าเป็นเช็คไม่มีมูลหนี้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ในชั้นชี้สองสถานศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ครั้งถึงวันนัดสืบพยานจำเลย ฝ่ายโจทก์มาศาลแต่ฝ่ายจำเลยไม่มา โจทก์แถลงขอสืบพยาน ศาลชั้นต้นสั่งนัดสืบพยานโจทก์พร้อมกับนัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งในนัดต่อไป โดยให้หมายนัดแจ้งให้จำเลยทราบวันนัดเมื่อถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ ฝ่ายจำเลยไม่มาศาล ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์1 ปาก โจทก์แถลงติดใจสืบพยานเพียงเท่านี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าคดีเสร็จสำนวนและมีคำพิพากษาในวันเดียวกัน แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 10 เมษายน 2524 ซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานจำเลยว่าเมื่อจำเลยไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบทั้งที่จำเลยทราบนัดโดยชอบแล้ว ศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งแสดงว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา ให้พิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียวตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 202 ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นัดสืบพยานโจทก์และนัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งต่อไปและมีคำพิพากษาคดีนี้มา จึงเป็นการที่ศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยการพิจารณา และปัญหานี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้โต้แย้งการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นในเรื่องนี้ไว้ จำเลยก็มีสิทธิยกปัญหานี้ขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ได้

พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาและนัดสืบพยานจำเลยและโจทก์คดีนี้แล้วมีคำพิพากษาหรือคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

Share