คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ โดยมิได้นำเงินที่ต้องชำระตามคำพิพากษามาวางหรือหาประกันมาให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์ โดยมิได้สั่งเรื่องจำเลยไม่วางเงินและมิได้ส่งไปให้ศาลอุทธรณ์สั่ง เป็นการไม่ชอบ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยเพราะจำเลยมิได้นำเงินที่ต้องชำระตามคำพิพากษามาวางหรือหาประกันมาให้ เมื่อปรากฏว่าจำเลยไม่มีเจตนาฝ่าฝืนศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้จำเลยนำเงินมาวางหรือหาประกันมาให้ไว้ต่อศาลชั้นต้นภายในเวลากำหนด แล้วให้ศาลชั้นต้นส่งคำร้องของจำเลยไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อสั่งต่อไป.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารกับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเดือนละ 3,000 บาท แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณืคำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าอุทธรณ์ภายในกำหนด รับอุทธรณ์ สำเนาให้โจทก์
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า จำเลยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อสาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234 จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยยืนคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยว่า อุทธรณ์ภายในกำหนด รับอุทธรณ์…โดยยังไม่ได้สั่งเกี่ยวกับเรื่องที่จำเลยไม่วางเงินหรือหาประกันมาวางเพื่อใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและหนี้ตามคำพิพากษา โดยไม่ได้ส่งไปให้ศาลอุทธรณ์สั่งนั้นเป็นการไม่ชอบเพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของศาลอุทธรณ์สั่ง เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้แล้วโดยไม่ได้กำหนดเรื่องจำเลยไม่วางเงิน หรือหาประกันมาวางศาลใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและหนี้คำพิพากษา จึงมีเหตุให้น่าเชื่อว่า จำเลยไม่มีเจตนาฝ่าฝืนไม่นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและเงินที่ต้องชำระตามคำพิพากษามาวางศาลหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234…”
พิพากษากลับ ให้จำเลยนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและเงินที่ต้องชำระตามคำพิพากษามาวางศาลชั้นต้น หรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้นภายใน 7 วันนับแต่วันฟังคำพิพากษานี้ หากจำเลยดำเนินการหรือไม่ดำเนินการภายในกำหนดดังกล่าวก็ให้ศาลชั้นต้นส่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อสั่งต่อไป

Share