แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา เมื่อศาลชั้นต้นไต่สวนและสั่งอนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีอย่างคนอนาถาได้ในทุนทรัพย์ซึ่งน้อยกว่าที่โจทก์ขอมาในท้ายฟ้อง ก็เท่ากับศาลรับฟ้องของโจทก์ในจำนวนทุนทรัพย์ที่อนุญาต ส่วนทุนทรัพย์ที่เกินกว่านั้น. เมื่อศาลกำหนดให้นำค่าธรรมเนียมมาชำระใน 15 วัน หากโจทก์ไม่ปฏิบัติตามไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ก็น่าที่ศาลจะไม่รับฟ้องของโจทก์เฉพาะในทุนทรัพย์ที่เกินนั้นไว้พิจารณา หาใช่สั่งจำหน่ายคดีของโจทก์เสียทั้งหมดไม่ ต่อมาเมื่อปรากฏว่าโจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอลดทุนทรัพย์ลงเท่ากับจำนวนที่ศาลอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา จึงไม่ใช่เรื่องโจทก์ทิ้งฟ้อง ศาลจึงต้องประทับฟ้องของโจทก์ไว้ดำเนินการพิจารณาเพียงเท่าทุนทรัพย์ที่ศาลอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ความว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบุตรของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ขับรถยนต์โดยประมาท ทำให้โจทก์บาดเจ็บทุพพลภาพพิการตลอดชีวิต จำเลยที่ 2 ที่ 3 ซึ่งเป็นบิดามารดาได้ปล่อยปละละเลย ขอให้ศาลบังคับให้ใช้ค่าเสียหาย และค่าสินไหมทดแทน 59,000 บาท
จำเลยที่ 2 ยื่นคำแถลงคัดค้านว่า คำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์เป็นเท็จ โจทก์บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แล้วฟ้องตั้งทุนทรัพย์ให้มากเพื่อหลบหลีกค่าธรรมเนียมศาล ใช้สิทธิฟ้องคดีอนาถาโดยไม่สุจริต บิดาโจทก์มิได้เป็นคนยากจน
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วเห็นว่าคดีโจทก์มีมูลพอฟ้องร้อง และโจทก์มีฐานะยากจน แต่โจทก์ฟ้องในข้อหามูลละเมิดตั้งทุนทรัพย์เกินสมควรไปมาก เห็นสมควรให้โจทก์ฟ้องคดีอนาถาในทุนทรัพย์เพียง 30,000 บาท ส่วนที่เกินกว่านี้ให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลภายใน 15 วัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลได้รายงานเจ้าหน้าที่ต่อศาลว่าบัดนี้พ้นกำหนดแล้ว โจทก์ยังไม่เสียค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ที่เกิน ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งถือว่าโจทก์ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลในระยะเวลาที่ศาลกำหนดไว้ในเรื่องชำระค่าธรรมเนียม จึงไม่รับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา ให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความ ในวันเดียวกันนั้นโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอลดจำนวนทุนทรัพย์ลงคงเหลือ 30,000 บาท ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ยื่นคำร้องมาล่วงเลยกำหนดเวลาที่ศาลสั่งและศาลได้สั่งในรายงานเจ้าหน้าที่แล้ว ให้ยกคำร้องเสีย
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นไต่สวนและสั่งอนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีอย่างคนอนาถาได้ในทุนทรัพย์ 30,000 บาท และค่าธรรมเนียมศาลอื่น ๆ แล้ว ก็เท่ากับศาลรับคำฟ้องของโจทก์ในทุนทรัพย์ 30,000 บาท นั้นแล้ว ส่วนทุนทรัพย์ที่เกินนี้ เมื่อศาลกำหนดให้โจทก์นำมาชำระใน 15 วัน หากโจทก์ไม่นำมาชำระจะเป็นด้วยโจทก์ไม่ติดใจในทุนทรัพย์ส่วนที่เกินนั้นหรือไม่สามารถนำมาชำระได้ด้วยประการใดก็ตาม ก็น่าที่ศาลจะไม่รับฟ้องของโจทก์เฉพาะในทุนทรัพย์ที่เกินนี้ไว้พิจารณา หาใช่สั่งจำหน่ายคดีของโจทก์เสียทั้งหมดไม่ ต่อมาปรากฏว่าโจทก์มายื่นคำร้องต่อศาลขอลดจำนวนทุนทรัพย์ลงคงเหลือ 30,000 บาทเท่าที่ศาลอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาจึงไม่ใช่เป็นเรื่องโจทก์ทิ้งฟ้อง
พิพากษาแก้ให้ศาลชั้นต้นประทับฟ้องของโจทก์ไว้ดำเนินการพิจารณาเพียงเท่าในทุนทรัพย์ 30,000 บาท ที่ศาลอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา