แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การรับฟังความเห็นของผู้ชำนาญการพิเศษตามที่ทางโรงพยาบาลได้ทำการ เจาะเลือดผู้เสียหายจำเลยและทารก เพื่อตรวจหา กลุ่มเลือดแล้ว และระบุผลออกมาเมื่อผู้ตรวจคือผู้ชำนาญในการนี้และทำการตรวจถูกต้อง ตามหลักวิชาแพทย์แล้วมีการทำความเห็นแจ้งผลการตรวจมาและมี พนักงานสอบสวนเบิกความรับรอง เอกสารย่อมเป็นหลักฐานเพียงพอ ให้รับฟังได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 243 แล้ว ส่วนวรรคสองของมาตรา 243 ที่ว่าศาลจะให้ผู้ชำนาญการพิเศษทำความเห็น เป็นหนังสือก็ได้แต่ต้องให้มาเบิกความประกอบหนังสือด้วยนั้น บทบัญญัติดังกล่าวให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจ ที่จะทำหรือไม่ก็ได้ มิใช่เป็น บทบังคับเด็ดขาด เมื่อ ศาลมิได้สั่งให้ทำความเห็นเป็นหนังสือ ก็ย่อมไม่ต้องห้าม มิให้รับฟังความเห็นดังกล่าว
เมื่อจำเลยกับผู้เสียหายมีเลือดกลุ่ม บี.ผู้เสียหายคลอดทารก มีเลือดกลุ่มเอ. ดังนี้ทารกมิได้เกิดจากจำเลยกับผู้เสียหายจำเลยก็มิได้ เป็นผู้ข่มขืนกระทำชำเรา ผู้เสียหาย แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพชั้นจับกุม และให้การ ในชั้นสอบสวนว่าได้ใช้อวัยวะเพศถูไถอวัยวะเพศของผู้เสียหาย2 ครั้งก็ตาม แต่เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธชั้นศาล คำให้การดังกล่าว เป็นเพียงพยานบอกเล่าโดยลำพังหามีน้ำหนักให้รับฟังว่าจำเลยกระทำผิดไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2524 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2524เวลากลางวัน จำเลยใช้กำลังกายปลุกปล้ำข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงบังอรศรีอายุ 12 ปีเศษ จนสำเร็จความใคร่ของจำเลยหลายครั้ง เหตุเกิดที่ตำบลบ้านเกาะอำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 277 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2524 ข้อ 7
จำเลยให้การปฏิเสธ
นายดาวบิดาผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514ข้อ 7 อันเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำผิดและเป็นคุณแก่จำเลย คำรับสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสามตามมาตรา 78 จำคุก 3 ปี 4 เดือน คำขอของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าจากการตรวจหากลุ่มเลือด จำเลยกับผู้เสียหายมีเลือดในกลุ่ม บี. ตามหลักวิชาแพทย์ทารกที่เกิดจะมีเลือดในกลุ่ม เอ.ไม่ได้ ดังนั้นทารกจึงไม่ได้เกิดจากจำเลยและย่อมฟังไม่ได้ว่าจำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เห็นว่าในเรื่องกลุ่มเลือด โจทก์มีนายแพทย์ธเนศ เบิกความว่าหากบิดาและมารดามีเลือดกลุ่ม บี. ทั้งคู่ ทารกที่ออกมาจะไม่มีโอกาสมีเลือดกลุ่ม เอ.ได้ ทั้งว่าเท่าที่เคยตรวจมา ยังไม่เคยพบว่ากรณีเช่นนี้มีโอกาสทำให้กลุ่มเลือดเปลี่ยนไปได้ พยานได้ตรวจหากลุ่มเลือดของผู้เสียหายคดีนี้ด้วย แต่จำรายละเอียดไม่ได้ ถือได้ว่าพยานปากนี้เป็นผู้ชำนาญการพิเศษในทางการแพทย์ เบิกความตามหลักวิชาแพทย์และที่เคยปฏิบัติมา มีประโยชน์ในการวินิจฉัยได้ และผลการตรวจกลุ่มเลือดตามเอกสารหมาย จ.2 และ จ.3 ที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาครแจ้งมาก็มีร้อยตำรวจโทสมศักดิ์เบิกความรับรอง ย่อมเป็นการเพียงพอในการรับฟังแล้วส่วนที่เกี่ยวกับการรับฟังความเห็นของผู้ชำนาญการพิเศษตามเอกสารหมาย จ.2 และ จ.3 มีใจความว่า ทางโรงพยาบาลได้ทำการเจาะเลือดผู้เสียหาย จำเลยและทารกเพื่อตรวจหากลุ่มเลือดแล้ว และได้ระบุผลออกมา ฟังได้ว่าผู้ตรวจคือผู้ชำนาญในการนี้และทำการตรวจถูกต้องตามหลักวิชาแพทย์แล้วมีการทำความเห็นแจ้งผลการตรวจมา ย่อมเป็นหลักฐานเพียงพอให้รับฟังได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 243 แล้ว ส่วนวรรคสองของมาตรานี้ที่ว่าศาลจะให้ผู้ชำนาญการพิเศษทำความเห็นเป็นหนังสือก็ได้แต่ต้องให้มาเบิกความประกอบหนังสือด้วยนั้น เป็นบทบัญญัติให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจที่จะทำหรือไม่ก็ได้หาใช่เป็นบทบังคับเด็ดขาดอันเป็นผลห้ามมิให้รับฟังความเห็นดังกล่าวไม่ เมื่อคดีนี้นายแพทย์ธเนศเบิกความว่า ถ้าบิดามารดามีเลือดเป็นกลุ่ม บี. ด้วยกันตรงกับผู้เสียหายและจำเลยทารกที่เกิดมาจะไม่มีโอกาสมีเลือดเป็นกลุ่ม เอ.ดังทารกรายนี้ได้ จึงฟังว่าทารกมิได้เกิดจากจำเลยกับผู้เสียหาย คือจำเลยมิได้เป็นผู้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายดังโจทก์ฟ้องนั่นเอง แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพชั้นจับกุมและให้การในชั้นสอบสวนว่าได้ใช้อวัยวะเพศถูไถอวัยวะเพศของผู้เสียหาย 2 ครั้งก็ตาม แต่เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธชั้นศาล คำให้การดังกล่าวเป็นเพียงพยานบอกเล่า โดยลำพังหามีน้ำหนักให้รับฟังว่าจำเลยกระทำผิดดังโจทก์ฟ้องไม่
พิพากษากลับให้ยกฟ้อง