แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แบบพิมพ์เช็คที่ธนาคารมอบให้ ล. เพื่อใช้สั่งจ่ายเงินได้เขียนข้อความไว้ในเช็คว่า บัญชีเลขที่ 2009 เมื่อมีผู้แก้ไขเลขบัญชีในเช็คจากเลขที่ 2009 เป็นเลขที่ 2099 แล้วกรอกข้อความลงในเช็คครบถ้วนและลงลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายโดย ล. ไม่ได้อนุญาตเช็คดังกล่าวจึงเป็นเอกสารปลอม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาจารุเมือง ลงวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๒๗ จำนวนเงิน ๖๗๖,๐๐๐ บาทชำระหนี้ให้ผู้มีชื่อ ผู้มีชื่อนำมาโอนชำระหนี้แก่โจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็ค เมื่อถึงกำหนดธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คโดยให้เหตุผลว่ามีคำสั่งให้ระงับการจ่าย เปลี่ยนแปลงเบอร์บัญชีต่อเติมหมายเลขบัญชี และไม่ใช่ลายเซ็นผู้สั่งจ่าย ทั้งนี้เพราะจำเลยออกเช็คโดยเจตนาไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และจำเลยได้ปลอมเช็คดังกล่าวโดยนำเช็คของผู้อื่นมาเติมข้อความเป็นชื่อของจำเลย และแก้ไขเลขบัญชีในเช็คจากเลขที่ ๒๐๐๙ เป็นเลขที่ ๒๐๙๙ แล้วนำเช็คดังกล่าวมาใช้ชำระหนี้ อันเป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์หรือผู้อื่นหรือประชาชน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔, ๒๖๕, ๒๖๖, ๒๖๘, ๙๑
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๖๘ จำคุก ๓ ปี ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า เช็คเอกสารหมาย จ.๑ เป็นเช็คที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาจารุเมือง มอบให้นายลิ้มไฮ้เพื่อใช้สั่งจ่ายเงินจากบัญชีเลขที่ ๒๐๐๙ และแบบพิมพ์เช็คเอกสารหมาจ.๑ ได้เขียนบัญชีเลขที่ ๒๐๐๙ ไว้ด้วย ต่อมาได้มีผู้แก้ไขเลขบัญชีเลขที่ ๒๐๐๙ เป็นเลขที่ ๒๐๙๙ แล้วกรอกข้อความลงในเช็คครบถ้วนและลงลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายโดยนายลิ้มไฮ้ไม่ได้อนุญาต กรณีถือได้ว่าเช็คเอกสารหมาย จ.๑ เป็นเอกสารปลอมแล้ว แต่พยานหลักฐานโจทก์ฟังไม่ได้ว่า จำเลยใช้เช็คเอกสารหมาย จ.๑ ไปขอแลกเงินสดจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.