คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3388/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

รถจักรยานยนต์ที่จำเลยใช้เป็นพาหนะในการวิ่งราวทรัพย์นั้นไม่เรียกว่าเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิด จึงริบไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก 1 คน ร่วมกันลักเอาสร้อยคอทองคำของนางละเอียด เลื่อนฉวี โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า แล้วขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จำเลยกับพวกใช้เป็นพาหนะหนีไป เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมรถดังกล่าวที่จำเลยกับพวกใช้เป็นพาหนะในการกระทำผิดเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336, 83 ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 400 บาทแก่เจ้าทรัพย์ และริบของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 336, 83 ซึ่งใช้อยู่ในขณะกระทำผิด และเป็นคุณแก่จำเลยให้จำคุกจำเลย 4 ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 400 บาทแก่เจ้าของ รถของกลางริบ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะฎีกาข้อ 3 (ก)(ข) ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมาย

สำหรับฎีกาข้อ 3(ก) ของจำเลยซึ่งจำเลยฎีกาว่าพลตำรวจจับกุมจำเลยโดยไม่มีหมายจับเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย นั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การจับกุมจำเลยในคดีนี้ไม่ต้องมีหมายจับ เพราะต้องด้วยข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78 ข้อ 4 ส่วนฎีกาข้อ 3(ข) ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามมาตรา 218 แล้วศาลฎีกาวินิจฉัยต่อไปว่า สำหรับรถจักรยานยนต์ของกลางที่ศาลล่างพิพากษาให้ริบนั้น ศาลฎีกาเห็นว่ารถจักรยานยนต์ของกลางที่จำเลยใช้เป็นพาหนะในการวิ่งราวทรัพย์นั้นไม่เรียกว่าเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิด จึงริบไม่ได้

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า รถจักรยานยนต์ของกลางให้คืนเจ้าของ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share