คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 338/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่นั้นไม่ทำให้ผู้นั้นได้สิทธิครอบครองที่ดินที่อยู่ในเขตประทานบัตรด้วย แต่เมื่อมีผู้ใดเข้าไปขัดขวางในการทำแร่ในเขตประทานบัตรโดยไม่มีอำนาจโดยชอบแล้วผู้ได้รับประทานบัตรก็ย่อมมีอำนาจฟ้องผู้นั้นได้ ถึงแม้ประทานบัตรเดิมขาดอายุแล้ว แต่โจทก์ก็ได้ขอประทานบัตรใหม่ก่อนที่อายุประทานบัตรจะครบกำหนด ขณะเกิดเหตุอยู่ในระหว่างดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้นเมื่อจำเลยขัดขวางโจทก์ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยและบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินประทานบัตรของโจทก์ หากจำเลยไม่ยอมรื้อถอน ให้โจทก์มีสิทธิ์รื้อโดยจำเลยเป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย และให้จำเลยใช้ค่าขาดประโยชน์จากการใช้ที่ดินแก่โจทก์เดือนละ 2,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากที่ดินโจทก์
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้มีสิทธิทำเหมืองแร่ตามประทานบัตรที่ 3734/5843 เพราะประทานบัตรดังกล่าวขาดอายุแล้ว ที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยซึ่งครอบครองโดยสงบเปิดเผยและเจตนาเป็นเจ้าของมาเกิน 1 ปีแล้ว ฟ้องโจทก์ขาดอายุความโจทก์ไม่ได้ใช้ที่ดินพิพาททำประโยชน์ใด ๆ จึงไม่เสียหาย หากเสียหายก็ไม่เกินเดือนละ 10 บาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังยุติได้ตามที่โจทก์นำสืบและจำเลยไม่โต้เถียงว่า ที่ดินพิพาทเนื้อที่ 1 งาน 50 ตารางวา ซึ่งอยู่ในเขตประทานบัตรของโจทก์ประทานบัตรที่ 3734/5843 ทั้งอยู่ที่ตำบลกะปง อำเภอกะปง จังหวัดพังงา เนื้อที่ 287 ไร่เศษประทานบัตรนี้สิ้นอายุในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2513 ก่อนประทานบัตรสิ้นอายุโจทก์ได้ยื่นคำขอประทานบัตรใหม่เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์2513 ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ประการแรกว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 73 บัญญัติว่า”ผู้ถือประทานบัตรมีสิทธิในเขตเหมืองแร่เฉพาะแต่…ฯลฯ” (3)ใช้ที่ดินในเขตเหมืองแร่…ฯลฯ…แต่ทั้งนี้เมื่อสิ้นอายุประทานบัตรแล้วมิให้ถือว่าเป็นการได้มาซึ่งสิทธิครอบครอง” และมาตรา 50 บัญญัติว่า “ถ้าที่ซึ่งขอประทานบัตรเป็นที่อันมิใช่ที่ว่างหรือมีที่อันมิใช่ที่ว่างรวมอยู่ในเขต ผู้ยื่นคำขอต้องแสดงหลักฐานให้เป็นที่พอใจของพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าผู้จะมีสิทธิทำเหมืองในเขตที่นั้นได้”ศาลฎีกาเห็นว่า การได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่นั้นไม่ทำให้ผู้นั้นได้สิทธิครอบครองที่ดินที่อยู่ภายในเขตประทานบัตรด้วย แต่เมื่อมีผู้ใดเข้าไปขัดขวางในการทำแร่ในเขตประทานบัตรโดยไม่มีอำนาจโดยชอบแล้ว ผู้ได้รับประทานบัตรก็ย่อมมีอำนาจฟ้องผู้นั้นได้ คดีนี้ถึงแม้ประทานบัตรเดิมจะขาดอายุแล้ว แต่โจทก์ก็ได้ขอประทานบัตรใหม่ก่อนที่อายุประทานบัตรจะครบกำหนด ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้น เมื่อจำเลยขัดขวางโจทก์ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องได้…”
พิพากษากลับ ให้จำเลยและบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินพิพาทตามประทานบัตรของโจทก์.

Share