คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3376/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยติตด่อขอซื้อเพชรร่วงจากโจทก์ร่วมและจากบริษัทซึ่งโจทก์ร่วมเป็นกรรมการผู้จัดการอยู่ โดยได้ออกเช็คมอบให้ไว้แก่โจทก์ร่วม 22 ฉบับ เช็คที่โจทก์ร่วมนำมาดำเนินคดีมี 13 ฉบับ เช็คดังกล่าวเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผูถือและไม่ปรากฏว่าโจทก์ร่วมได้รับโอนมาในฐานผู้ทรงตามกฎหมาย เมื่อโจทก์ร่วมไม่สามารถแยกแยะหรือจำได้ว่าฉบับใดเป็นเช็คส่วนตัว ฉบับใดเป็นเช็คของบริษัท เช็คที่โจทก์ร่วมนำมาดำเนินคดีจึงฟังไม่ได้ว่าเป็นเช็คส่วตัวหรือเช็คของบริษัท โจทก์ร่วมจึงไม่มีอำนาจร้องทุกข์หรือเข้าร่วมเป็นโจทก์ในคดีนี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คจำนวน ๑๓ ฉบับ เพื่อชำระหนี้ให้แก่นายชิดชัยผู้เสียหาย ต่อมาผู้เสียหายนำเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทั้ง ๑๓ ฉบับโดยให้เหตุผลต่าง ๆ กัน ทั้งนี้ โดยจำเลยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ ม.๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
นายชิดชัยผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษ ๑๒ กระทง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ร่วมในฐานะส่วนตัวมีอำนาจร้องทุกข์หรือเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการหรือไม่ เป็นปัญหาเกี่ยวกับอำนาจร้องทุกข์หรือเข้าเป็นโจทก์ร่วม เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลมีอำนาจที่จะหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ แม้ไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นกล่าวอ้าง สำหรับเช็คทั้ง ๑๓ ฉบับ หากเป็นเช็คของบริษัทปิยะมณี จำกัด โจทก์ร่วมในฐานส่วนตัวหามีอำนาจที่จะนำมาร้องทุกข์หรือหรือดำเนินคดีไม่ เพราะการจะดำเนินคดีหรือไม่ ย่อมจะต้องกระทำในนามบริษัทปรากฏว่าเช็คทั้ง ๑๓ ฉบับเป็นเช็คที่สั่งจ่ายแก่ผู้ถือและไม่ปรากฏว่าโจทก์ร่วมได้รับโอนมาในฐานะผู้ทรงตามกฎหมาย เมื่อเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายทั้งหมด โจทก์ร่วมไม่สามารถแยกแยะหรือจำได้ว่าฉบับใดเป็นเช็คส่วนตัว ฉบับใดเป็นเช็คบริษัท เช็ค ๑๓ ฉบับที่โจทก์ร่วมนำมาดำเนินคดีจึงฟังไม่ได้ว่าเป็นเช็คส่วนตัวหรือเช็คบริษัท ฉะนั้น จะฟังว่าโจทก์ร่วมมีอำนาจร้องทุกข์หรือเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีนี้ยังไม่ได้
พิพากษาแก้เป็นให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งหมดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share