แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ไวยาวัจกรฟ้องคดีในนามของวัดผู้เป็นเจ้าของทรัพย์พิพาทโดยอาศัยหนังสือซึ่งเจ้าอาวาสวัดแต่งตั้งให้เป็นไวยาวัจกรมีอำนาจหน้าที่จัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินของวัดและดำเนินคดีแทนวัดหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากรเมื่อไม่ปิดอากรแสตมป์ไวยาวัจกรก็ไม่มีอำนาจฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าที่ดินของวัดราชาธิวาสวิหาร ให้ออกจากที่เช่าและชำระค่าเช่าที่ค้าง
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยค้างค่าเช่า จำเลยนำไปชำระแต่โจทก์ไม่ยอมรับ ขอให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่า ใบมอบอำนาจที่นายสมภาษก์นำมาฟ้องไม่ปิดอากรแสตมป์ นายสมภาษก์จึงยังไม่มีอำนาจนำคดีมาฟ้องพิพากษายกฟ้อง แต่ไม่ตัดสิทธิจะฟ้องใหม่
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้นายสมภาษก์จะได้รับแต่งตั้งจากผู้รักษาการในหน้าที่เจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสวิหารให้เป็นไวยาวัจกรก็ตาม แต่พระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงค์ ร.ศ. 121 ตลอดจนพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2484 และ พ.ศ. 2485 ก็มิได้บัญญัติอำนาจหน้าที่ของไวยาวัจกรไว้แต่อย่างใดเลย การกระทำกิจการใด ๆ ในนามวัดราชาธิวาสวิหารของนายสมภาษก์จึงเป็นการกระทำในฐานะเป็นตัวแทนของเจ้าอาวาสนั่นเอง การที่นายสมภาษก์มาฟ้องคดีนี้ในนามของวัดซึ่งตนเป็นไวยาวัจกรผู้รับมอบอำนาจซึ่งต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร เมื่อไม่ปิดก็ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์