คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2507

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ไวยาวัจกรฟ้องคดีในนามของวัดผู้เป็นเจ้าของทรัพย์พิพาท โดยอาศัยหนังสือซึ่งเจ้าอาวาสวัดแต่งตั้งให้เป็นไวยาวัจกรมีอำนาจหน้าที่จัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินของวัดและดำเนินคดีแทนวัดหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร เมื่อไม่ปิดอากรแสตมป์ไวยาวัจกรก็ไม่มีอำนาจฟ้อง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าที่ดินของวัดราชาธิวาสวิหาร ให้ออกจากที่เช่าและชำระค่าเช่าที่ค้าง
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยค้างค่าเช่า จำเลยนำไปชำระแต่โจทก์ไม่ยอมรับขอให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยาน แล้ววินิจฉัยว่าใบมอบอำนาจที่นายสมภาษก์นำมาฟ้องไม่ปิดอากรแสตมป์ นายสมภาษก์จึงยังไม่มีอำนาจนำคดีมาฟ้องพิพากษายกฟ้อง แต่ไม่ตัดสิทธิจะฟ้องใหม่
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้นายสมภาษก์จะได้รับแต่งตั้งจากผู้รักษาการในหน้าที่เจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสวิหารให้เป็นไวยาวัจกรก็ตาม แต่พระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.๑๒๑ ตลอดจนพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๔๘๔ และ พ.ศ.๒๕๐๕ ก็มิได้บัญญัติอำนาจหน้าที่ของไวยาวัจกรไว้แต่อย่างใดเลย การกระทำกิจการใด ๆ ในนามวัดราชาธิวาสวิหารของนายสมภาษก์จึงเป็นการกระทำในฐานะเป็นตัวแทนของเจ้าอาวาสนั่นเอง การที่นายสมภาษก์มาฟ้องคดีนี้ก็ฟ้องในนามของวัดซึ่งตนเป็นไวยาวัจกรผู้รับมอบอำนาจตามหนังสือมอบอำนาจซึ่งต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร เมื่อไม่ปิดก็ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์.

Share