แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่เจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาท เป็นการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลในชั้นที่พิจารณาคดีโดยจำเลยขาดนัดและถือเป็นวิธีการบังคับคดีที่ได้ดำเนินไปแล้ว เมื่อศาลมีคำสั่งให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่แล้วการจดทะเบียนลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาทจึงต้องถูกเพิกถอนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209วรรคแรก เมื่อจำเลยมีคำขอให้ศาลเพิกถอนรายการจดทะเบียนดังกล่าวมาด้วยแล้ว ศาลจึงมีอำนาจสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินเพิกถอนรายการจดทะเบียนลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินพิพาทนั้นได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับซื้อฝากที่ดิน 1 แปลง โดยลงชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินแทนโจทก์ ขอให้พิพากษาว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 5135 เป็นของโจทก์ ให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์หากไม่ไปให้ถือคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน
ในชั้นแรกจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาศาลชั้นต้นให้พิจารณาคดีโจทก์ไปฝ่ายเดียว และมีคำพิพากษาแล้ว ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่
จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ที่ดินโฉนดเลขที่5135 จำเลยเป็นผู้ซื้อฝากเอง จำเลยไม่ได้ลงชื่อในโฉนดที่ดินแทนโจทก์ อนึ่งเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2530 โจทก์ได้จดทะเบียนลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินดังกล่าวแล้ว ขอให้ยกฟ้องและให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรี เพิกถอนรายการจดทะเบียนที่ลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินดังกล่าว
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง ให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีเพิกถอนรายการจดทะเบียนที่ลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินเลขที่ 5135 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2530
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในกรณีการพิจารณาโดยขาดนัดนั้นเมื่อคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ยกคดีนั้นขึ้นพิจารณาใหม่แล้ว กฎหมายได้บัญญัติด้วยว่า คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลโดยคู่ความขาดนัดคำพิพากษาหรือคำสั่งอื่น ๆ ของศาลสูงในคดีเดียวกันนั้น และวิธีการบังคับคดีที่ได้ดำเนินไปแล้วนั้น ให้ถือว่าเป็นอันเพิกถอนไปในตัวแต่ถ้าเป็นการพ้นวิสัยที่จะให้คู่ความกลับคืนสู่ฐานะเดิมดังเช่นก่อนการบังคับคดีได้ เมื่อศาลเห็นว่าไม่จำเป็นที่จะบังคับเช่นนั้นเพื่อประโยชน์แก่คู่ความหรือบุคคลภายนอก ให้ศาลมีอำนาจสั่งอย่างใด ๆ ตามที่เห็นสมควรได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209 วรรคแรก การที่เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีจดทะเบียนลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาท เป็นการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในชั้นที่พิจารณาคดีโดยจำเลยขาดนัดและถือเป็นวิธีการบังคับคดีที่ได้ดำเนินไปแล้วนั่นเอง เมื่อศาลมีคำสั่งให้ยกคดีนี้ขึ้นพิจารณาใหม่แล้ว การจดทะเบียนลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาทจึงต้องถูกเพิกถอนไปตามบทกฎหมายดังกล่าวทั้งจำเลยก็ได้มีคำขอให้ศาลเพิกถอนรายการจดทะเบียนที่เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินพิพาทมาด้วยแล้ว ดังนั้นศาลจึงมีอำนาจสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีซึ่งจดทะเบียนลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินพิพาทเพิกถอนรายการจดทะเบียนดังกล่าวนั้นได้ เพราะเป็นการสั่งเพิกถอนการบังคับคดีที่ได้ดำเนินไปแล้วให้กลับคืนสู่ฐานะเดิมก่อนมีการบังคับคดีนั่นเอง ที่ศาลอุทธรณ์ไม่พิพากษาให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีเพิกถอนรายการจดทะเบียนดังกล่าวด้วยนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาจำเลยฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เพิกถอนการบังคับคดี โดยให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีเพิกถอนรายการจดทะเบียนที่ลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินเลขที่ 5135 ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมืองราชบุรีจังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2530 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์