แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
คำร้องของผู้ร้องที่ว่า ผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 2 ใช้เงินคนละกว่าสามล้านบาทเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ. การเลือกตั้งฯ มาตรา 32โดยไม่ได้บรรยายยืนยันข้อเท็จจริงว่าเงินที่ผู้คัดค้านทั้งสองใช้เป็นจำนวนที่แน่นอนเท่าใด คงใช้วิธีประมาณการเอาเท่านั้นและไม่ได้บรรยายว่าเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องใดเท่าใด จ่ายเมื่อใดให้แก่ใคร ส่วนที่อ้างว่าใช้เงินในการซื้อเสียงด้วยก็ไม่ได้กล่าวอ้างว่าซื้อเสียงใครจำนวนมากน้อยเท่าใด สิ้นเงินไปในการนี้เท่าใด ได้จ่ายเงินไปก่อนหรือหลังจากมีการรับสมัครเลือกตั้งจึงยังไม่พอที่จะให้ผู้คัดค้านเข้าใจข้อหาได้ คำร้องของผู้ร้องข้อนี้จึงเคลือบคลุม ส่วนที่ผู้ร้องกล่าวอ้างว่า เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งกระทำการอันใดเพื่อขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 52 นั้น ในคำร้องคงบรรยายเพียงว่า ในวันเลือกตั้งมีกรรมการควบคุมการเลือกตั้งบางหน่วยเลือกตั้งได้ช่วย กากบาทให้แก่ผู้คัดค้านทั้งสอง แต่ก็ไม่ได้บรรยายให้ทราบว่ากรรมการควบคุมการเลือกตั้งผู้กระทำการนั้นเป็นใคร และได้กากบาทให้เป็นจำนวนคะแนนเท่าใด และจะทำให้ผลของการเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ จึงยังไม่พอที่จะให้ผู้คัดค้านเข้าใจข้อหาได้ คำร้องของผู้ร้องข้อนี้จึงเคลือบคลุม เมื่อคำร้องของผู้ร้องที่เกี่ยวกับมาตรา 32 และมาตรา 52เป็นคำร้องที่ไม่ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของผู้ร้องตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา 172 วรรคสอง แล้วจึงไม่อาจพิจารณาข้อเท็จจริงตามที่ผู้ร้องนำสืบมาในเหตุข้ออ้างทั้งสองประการได้.
ย่อยาว
ผู้ร้องยืานคำร้องและแก้ไขคำร้องว่า ผู้ร้องได้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในนามพรรคปวงชนชาวไทยในเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์อันมีพื้นที่ 4 อำเภอ คืออำเภอตาคลี อำเภอตากฟ้า อำเภอไพศาลี และอำเภอหนองบัวซึ่งมีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2531 ในการรับสมัครรับเลือกตั้งของผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ไม่ได้ควบคุมบุคคลทั้งสองอย่างใกล้ชิดปล่อยปละละเลยให้บุคคลทั้งสองไปพูดจาหาเสียง ในขณะที่นายอำเภอแต่ละอำเภอประชุมประจำเดือน เพื่อจูงใจให้เลือกบุคคลทั้งสองเข้าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แล้วทำการเลี้ยงอาหารอย่างเปิดเผย จ่ายเงินให้ผู้ใหญ่บ้านคนละ 500 บาท กำนันคนละ 1,000 บาท ทุกอำเภอในเขตเลือกตั้งที่ 3 และระหว่างวันที่ 20-23 กรกฎาคม 2531 บุคคลทั้งสองได้จัดเลี้ยงอาหารประชาชนโดยเปิดเผย ณ บริเวณตลาดตากฟ้า อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ และในเขตเลือกตั้งที่ 3 อีกหลายแห่งเพื่อจูงใจให้ประชาชนเลือกบุคคลทั้งสองเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและบุคคลทั้งสองยังว่าจ้างกำนันให้เป็นผู้หาเสียงให้ในการสมัครรับเลือกตั้งของนายประเทืองและนายวิจิตร ใช้เงินเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดโดยใช้เงินคนละกว่าสามล้านบาท และนำไปซื้อเสียงและซื้อคะแนนจากประชาชนจนบุคคลทั้งสองได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หากบุคคลทั้งสองไม่ใช้เงินซื้อเสียงซื้อคะแนนและไม่ใช้เงินเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คะแนนเสียงของบุคคลทั้งสองจะน้อยกว่าผู้ร้อง นอกจากนั้นในวันเลือกตั้ง ที่หน่วยเลือกตั้งบางหน่วย เช่นหน่วยเลือกตั้งบ้านโคกกระดี่ อำเภอตาคลี กรรมการควบคุมการเลือกตั้งยังได้ช่วยกากบาทให้แก่บุคคลทั้งสองอีกด้วย ขอให้มีคำสั่งว่านายประเทือง คำประกอบ และนายวิจิตร แจ่มใส ที่ได้รับเลือกตั้งตกเป็นโมฆะ และทำการเลือกตั้งใหม่ภายใน 90 วัน
ผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 2 คัดค้านว่า ผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 2มิได้กระทำการใด ๆ ดังที่ผู้ร้องอ้าง และคำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุมเพราะมิได้บรรยายว่า จ่ายเงินให้แก่ผู้ใด เมื่อใด และที่ใด และที่ว่าจ่ายเงินเกินกำหนดนั้น จ่ายไปในทางใด ใช้ทำอะไร จำนวนเท่าใดจ่ายแก่ผู้ใด ที่ใด เมื่อใด
ผู้คัดค้านที่ 3 คัดค้านว่า ได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนตามหน้าที่ ผลการเลือกตั้งเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย คำร้องเคลือบคลุมไม่มีเหตุที่จะต้องเลือกตั้งใหม่เพราะเป็นไปโดยชอบแล้ว
ศาลจังหวัดนครสวรรค์ไต่สวนแล้ว แล้วทำความเห็นส่งสำนวนมายังศาลฎีกาว่า คำร้องของผู้ร้องเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม เห็นสมควรมีคำสั่งยกคำร้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 หมวด 9 การคัดค้านการเลือกตั้งบัญญัติไว้ในมาตรา 78 ว่า กรณีที่จะร้องคัดค้านการเลือกตั้งได้นั้นเฉพาะกรณีที่การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น มีการฝ่าฝืน มาตรา 26มาตรา 32 มาตรา 34 มาตรา 51 หรือมาตรา 52 เท่านั้น คำร้องของผู้ร้องได้กล่าวอ้างถึงการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 32 เรื่องผู้ได้รับเลือกตั้งแต่ละคนใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งเกินสามแสนห้าหมื่นบาท และมาตรา 52 เรื่องเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งกระทำการอันใดเพื่อขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมายกฎกระทรวงหรือคำสั่งของศาลอันเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ผู้คัดค้านทั้งสามให้การต่อสู้ว่าคำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุม ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยในปัญหานี้ก่อน ตามคำร้องของผู้ร้องในรเรื่องที่ผู้ได้รับเลือกตั้งใช้เงินเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดนั้นผู้ร้องกล่าวอ้างข้อเท็จจริงในคำร้องว่า ผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 2 ใช้เงินคนละกว่าสามล้านบาท โดยไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริงว่า จำนวนที่แน่นอนของผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 ใช้นั้นเป็นเท่าใด คงใช้วิธีประมาณการเอาเท่านั้น และมิได้บรรยายข้อเท็จจริงให้ปรากฏเลยว่าเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องใดเท่าใด จ่ายไปเมื่อใดให้แก่ใคร ส่วนที่กล่าวไว้ว่าใช้การซื้อเสียงด้วยเงินก็ไม่กล่าว่าซื้อเสียงใครจำนวนมากน้อยเท่าใดสิ้นเงินไปในการนี้เท่าใด ได้จ่ายไปก่อนหรือหลังจากมีการสมัครรับเลือกตั้ง ข้อกล่าวอ้างตามคำร้องจึงไม่แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาพอที่จะให้ผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 ซึ่งถูกกล่าวหาเข้าใจได้ดีพอที่จะต่อสู้คดีได้ถูกต้อง นอกจากนั้นในคำร้องของผู้ร้องก็มิได้กล่าวถึงข้อเท็จจริงเป็นการยืนยันให้เห็นว่า การจ่ายเงินจำนวนที่ผู้ร้องประมาณการมานั้นเป็นการใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง คงกล่าวแต่เพียงว่าใช้เงินคนละกว่าสามล้านบาทเท่านั้น คำร้องของผู้ร้องในส่วนนี้จึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม สำหรับข้ออ้างเกี่ยวกับการกระทำของเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งตามมาตรา 52 นั้น ผู้ร้องกล่าวในคำร้องแต่เพียงว่า ในวันเลือกตั้งปรากฏว่าที่หน่วยเลือกตั้งบางหน่วยเช่นหน่วยเลือกตั้งบ้านโคกกระดี่ อำเภอตาคลี กรรมการควบคุมการเลือกตั้งยังได้ช่วยกากบาทให้แก่บุคคลทั้งสองอีกด้วยโดยไม่ได้กล่าวว่ากรรมการควบคุมการเลือกตั้งที่กระทำการดังที่อ้างนั้นเป็นใครจำนวนคะแนนที่อ้างว่ากากบาทให้นั้นเป็นจำนวนเท่าใดจะทำให้ผลของการเลือกตั้งเปลี่ยนไปหรือไม่ ข้อกล่าวอ้างของผู้ร้องตามคำร้องเช่นนี้ไม่อาจจะทำให้เข้าใจได้ว่า เจ้าพนักงานคนใดกระทำอย่างนั้น ผู้คัดค้านที่ 3 ในฐานะที่เป็นเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งไม่อาจจะเข้าใจข้อหาได้ และไม่อาจจะต่อสู้ข้อกล่าวอ้างของผู้ร้องได้ถูกต้อง คำร้องของผู้ร้องในส่วนนี้จึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม เมื่อวินิจฉัยว่าคำร้องของผู้ร้องที่เกี่ยวกับมาตรา 32และมาตรา 52 เป็นคำร้องที่มิได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของผู้ร้องตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 แล้ว จึงไม่อาจจะพิจารณาข้อเท็จจริงตามที่ผู้ร้องนำสืบมาในเหตุอ้างสองประการดังกล่าวได้ ส่วนข้อกล่าวอ้างในคำร้องของผู้ร้องนอกจากสองกรณีตามที่กล่าวแล้ว ก็ไม่ใช่ข้ออ้างตามที่กำหนดไว้ในบทบัญญัติมาตราต่าง ๆ ตามบัญญัติไว้ในมาตรา 78 ที่จะอ้างมาเป็นเหตุให้มีการเลือกตั้งใหม่ได้ สรุปแล้วตามคำร้องของผู้ร้องนั้น ไม่ปรากฏให้เห็นว่า ผู้ได้รับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 3ตามคำร้องของผู้ร้อง ได้รับเลือกตั้งมาโดยมิชอบอันสมควรจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามคำขอของผู้ร้อง”
มีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง.