คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 336/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กระบือของผู้เสียหายมิได้ถูกลัก แต่ติดสัดเพริดหายไปผู้เสียหายติดตามอยู่เพียง 3 วัน แล้วมิได้ติดตามอีกระยะเวลาหลังจากที่ผู้เสียหายมิได้ติดตามกระบือ จึงขาดการครอบครองในกระบือของตน และเป็นทรัพย์สินหายตลอดมาจำเลยจับกระบือได้หลังจากวันที่เพริดหายไปถึง 10 วัน และได้ไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบทันที ดังนี้ จำเลยไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ รับของโจร

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2517 เวลากลางวัน มีคนร้ายหลายคนร่วมกัน ลักกระบืออันเป็นสัตว์สำหรับประกอบกสิกรรมรวม 3 ตัว ราคา 11,000บาทของนายทวี เมืองด้วงผู้มีอาชีพกสิกรรมไปโดยทุจริต ต่อมามีผู้พบเห็นจำเลยทั้งสามกับพวกร่วมกันครอบครองกระบือ 2 ตัวอันเป็นทรัพย์ส่วนหนึ่งของนายทวีที่ถูกคนร้ายลักไป เจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสามไปพร้อมกระบือ 2 ตัวดังกล่าวเป็นของกลาง ทั้งนี้โดยจำเลยทั้งสามร่วมกันลัก หรือมิฉะนั้นก็ร่วมกันรับไว้ และช่วยพาเอาไปโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นกระบือที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 335(7)(12), 357

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(12) จำคุก 2 ปี 6 เดือน จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 จำคุกคนละ 2 ปี

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า กระบือของผู้เสียหายและของนายเขียวรวม 5 ตัวได้เพริดหายไปจากทำเลเลี้ยง โดยมีคนเห็นเดินเข้าไปตามลำพัง ห่างจากทำเลเลี้ยงราว 10 กิโลเมตรในตอนเย็นของวันที่ 7 มิถุนายน 2517 วันรุ่งขึ้นกระบือของนายเขียว 2 ตัวได้เดินกลับมาบ้านเอง ส่วนกระบือตัวเมียของผู้เสียหายซึ่งติดสัดได้เพริดต่อไปอีก ต่อมาวันที่ 11 มิถุนายน 2517 ผู้เสียหายและนายหมึกอดีตผู้ใหญ่บ้านได้พากันไปหาจำเลยที่ 1 ขอให้ช่วยสืบหากระบือและได้เลยไปขอความช่วยเหลือจากนายมิตรผู้ใหญ่บ้าน นายมิตรได้สั่งให้ลูกบ้านรวมทั้งจำเลยที่ 2 ช่วยสืบด้วย หลังจากนั้นผู้เสียหายก็มิได้ออกติดตามกระบือของตนอีกเลย ครั้นวันที่ 17 มิถุนายน 2517 จำเลยที่ 2 จับกระบือ 2 ตัวของผู้เสียหายได้ จำเลยที่ 2 ได้ไปแจ้งให้นายมิตรทราบทันที นายมิตรให้จำเลยที่ 1 ให้ไปส่งข่าวให้ผู้เสียหายทราบ รุ่งขึ้นจำเลยที่ 2 ก็ถูกตำรวจจับกุมพร้อมกับยึดกระบือของผู้เสียหายไปเป็นของกลาง เมื่อผู้เสียหายทราบก็ได้ติดตามไปดูกระบือและแสดงตั๋วพิมพ์รูปพรรณต่อพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนได้คืนกระบือให้ผู้เสียหายชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสามให้การเป็นพิรุธ จึงถูกสอบสวนเป็นผู้ต้องหาคดีนี้

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กระบือของผู้เสียหายมิได้ถูกคนร้ายลักไปแต่อย่างใดโดยผู้เสียหายทราบดีว่ากระบือของตนติดสัดเพริดหายไปจึงติดตามอยู่เพียง3 วันเท่านั้น แล้วมิได้ติดตามอีก ระยะเวลาหลังจากที่ผู้เสียหายมิได้ติดตามกระบือผู้เสียหายจึงขาดการครอบครองในกระบือของตน กระบือจึงเป็นทรัพย์สินหายตลอดมา จนกระทั่งถึงวันที่ 17 มิถุนายน 2517 ซึ่งห่างจากวันที่กระบือของผู้เสียหายเพริดหายไปถึง 10 วัน จำเลยที่ 2 จึงจับกระบือของผู้เสียหายได้ตามที่นายมิตรผู้ใหญ่บ้านสั่งไว้ เมื่อจับกระบือไว้ได้แล้ว จำเลยที่ 2 ก็ได้ไปแจ้งให้นายมิตรผู้ใหญ่บ้านทราบทันที ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวสรุปแล้วคงได้ความว่าเพียงแต่จำเลยที่ 2 คนเดียวเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับกระบือของกลางโดยเป็นผู้จับกระบือของผู้เสียหายที่เพริดหายมาไว้ ฉะนั้นคดีโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1ได้กระทำความผิดฐานลักทรัพย์ และจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 ได้กระทำความผิดฐานรับของโจรตามฟ้องดังโจทก์ฎีกาแม้ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสามจะได้ให้การเป็นพิรุธก็ตาม

พิพากษายืน

Share