คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3355/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขับรถยนต์ของกลางชนท้ายรถจิ๊ปที่ร้อยตำรวจตรีส.ขับขี่โดยมีเจตนาทำร้ายเพราะโกรธเคืองที่จับจำเลยมาสถานีตำรวจและไม่ยอมปล่อยจำเลยตามคำขอร้องของจำเลยจนร้อยตำรวจตรี ส.ได้รับบาดเจ็บจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 296 รถยนต์ของกลางจึงเป็นทรัพย์สินซึ่งบุคคลได้ใช้ในการกระทำผิดศาลมีอำนาจริบเสียได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานใช้รถยนต์ไม่เสียภาษีประจำปี ไม่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวขณะขับรถ พยายามฆ่าเจ้าพนักงานด้วยการขับรถยนต์ชนรถยนต์ของเจ้าพนักงานตำรวจโดยมีเจตนาฆ่า และหลบหนีระหว่างถูกคุมขังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138, 190, 289, 80, 91 33 พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 71, 86, 92, 101, 127, 148 และริบรถยนต์ของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพข้อหาใช้รถยนต์ไม่เสียภาษีประจำปี ข้อหาอื่นปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยมีเพียงเจตนาทำร้ายเจ้าพนักงาน ไม่มีเจตนาฆ่าพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 296 ส่วนข้อหาอื่นลงโทษตามฟ้อง และริบรถยนต์ของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องข้อหาทำร้ายเจ้าพนักงานข้อหาหลบหนีการควบคุมลดโทษให้ 1 ใน 3 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยขับรถยนต์ชนท้ายรถจี๊ปที่ร้อยตำรวจตรีสมนึกขับขี่โดยจำเลยมีเจตนาทำร้าย เพราะจำเลยโกรธเคืองร้อยตำรวจตรีสมนึกกับพวกที่จับกุมจำเลยมาสถานีตำรวจโดยไม่ยอมปล่อยตัวจำเลยตามคำขอร้องของจำเลยจำเลยจึงมีความผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 296เมื่อศาลวินิจฉัยว่าจำเลยได้ขับรถยนต์ของกลางชนท้ายรถยนต์ที่ร้อยตำรวจตรีสมนึกขับขี่โดยเจตนาทำร้าย รถยนต์ของกลางจึงเป็นทรัพย์สินซึ่งบุคคลได้ใช้ในการกระทำผิดศาลมีอำนาจริบเสียได้ จึงให้ริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 296 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share