แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ยื่นประมูลยื่นคำร้องต่อผู้บังคับบัญชาว่ากรรมการผู้รับประมูลทำโดยปราศจากคุณธรรมอันดี แลน่าจะมีเลศนัย ในการประมูลดังนี้ เป็นข้อความหมิ่นประมาทตามมาตรา 282 ผู้ที่ได้รับยกเว้นตาม ม.283 ต้องเป็นผุ้แสดงความเห็นโดยสุจริต ถ้ามีเจตนาใส่ใคล้เขาด้วยเจตนาร้ายหาได้ยกเว้นไม่
พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ 2461 คดีที่ฎีกาได้ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมายนั้นศาลฎีกาต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ศาลล่างฟังมา
ย่อยาว
ได้ความว่าโจทก์ที่ ๑ กับอีก ๓ นายเป็นกรรมการในการประมูลเครื่องเขียน จำเลยเป็นผู้ประมูลได้แต่จำเลยส่งของผิดตัวอย่าง กรรมการจึงให้ จ. ผู้ซึงให้ราคาสูงถัดขึ้นไปเป็นผู้ได้การประมูลรายนี้ ต่อมาจำเลยได้กล่าวโดยโจทก์ทั้ง ๒ หาว่ากรรมการได้ทำโดยปราศจกาคุณธรรมอันดี ทั้งเห็นว่าน่าจะมีเลศนัย โจทก์จึงฟ้งขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จร้องเรียนเท็จกระทำพะยานเท็จ แลหมิ่นประมาท
ศาลเดิมพิพากษาว่าจำเลยมีผิดฐานหมิ่นประมาทตามมาตรา ๒๘๒ ตอน ๒ ให้ลงโทษจำคุก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่ควรมีโทษตามกฎหมายอาชญามาตรา ๒๘๓
ศาลฎีกาเห็นว่าการที่จำเลยได้ร้องเรียนต่อสมุหเทศาภิบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการจะได้ทำไปโดยเจตนาร้ายหรือไม่นั้น ศาลล่างทั้ง ๒ ฟังต้องกันว่าจำเลยได้ทำไปโดยใส่ใคล้โจทก์ด้วยเจตนาร้ายซึ่งต้องฟังตามว่าจำเลยได้ทำไปโดยไม่สุจริต คดีของจำเลยจึงไม่เข้าอยู่ในบทยกเว้นโทษตามมาตรา ๒๘๓ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง