คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3344/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรกหลังจากสืบพยานโจทก์เสร็จทนายจำเลยขอเลื่อนเพราะพยานไม่มาศาล และแถลงว่านัดหน้าพยานมาเท่าใดก็จะสืบไปเท่านั้นโดยไม่ขอเลื่อนในนัดที่ 2ทนายจำเลยขอเลื่อนอีก อ้างว่าจำเลยที่ 1 ไปราชการต่างจังหวัดโดยที่จำเลยที่ 2 และพยานจำเลยอื่นก็ไม่มีมาศาล ซึ่งทนายโจทก์คัดค้านว่าเป็นการประวิงคดี ดังนี้ การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีไปโดยเห็นว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบและให้นัดฟังคำพิพากษา จึงเป็นการชอบ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยทั้งสองและบริวารออกจากบ้านและที่ดินพิพาท กับให้จำเลยชำระค่าเสียหายเป็นรายเดือนนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะมอบบ้านพิพาทคืนแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้โดยใช้สิทธิไม่สุจริตไม่มีอำนาจฟ้อง ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกมาสูงเกินไปขอให้ยกฟ้อง
เมื่อสืบพยานโจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนเสร็จแล้วศาลชั้นต้นนัดสืบพยานจำเลย ในนัดแรกทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนโอนอ้างว่าจำเลยที่ 1 ติดราชการส่วนจำเลยที่ 2 เดินทางไปต่างจังหวัด ทนายจำเลยแถลงว่านัดหน้าหากพยานมาศาลเท่าไรก็ขอสืบเท่านั้นไม่ขอเลื่อนอีก ศาลชั้นต้นอนุญาต ในนัดที่ 2ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนอีกโดยอ้างว่าจำเลยที่ 1ไปราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ตามคำสั่งที่แนบมาท้ายคำร้องศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยขอเลื่อนคดีมา 2 ครั้งแล้วในการพิจารณาวันนี้จำเลยก็ไม่มีพยานมาศาลเลย เห็นว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบคดีเสร็จการพิจารณาให้นัดฟังคำพิพากษาครั้นถึงวันนัดฟังคำพิพากษา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากบ้านพิพาท ให้จำเลยชำระเงินรายเดือนนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะออกจากบ้านและที่ดินพิพาท
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ขอให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยต่อไปแล้วพิพากษาใหม่
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยขอเลื่อนคดีเพราะจำเลยที่ 1ติดราชการซึ่งมีความสำคัญ และคดีมีความสำคัญอยู่ที่จำเลยที่ 1 ประกอบกับจำเลยเพิ่งขอเลื่อนเพียง 2 ครั้ง สมควรให้โอกาสแก่จำเลย พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรกที่ทนายจำเลยขอเลื่อนนั้น ปรากฏว่าขอเลื่อนเพราะพยานจำเลยไม่มาศาลและทนายจำเลยแถลงว่านัดหน้าพยานมาเท่าไรก็จะขอสืบไปเท่านั้นดดยไม่ขอเลื่อนคดีอีก ศาลชั้นต้นจึงอนุญาตให้ทนายจำเลยเลื่อนไปนัดสืบพยานจำเลยในนัดหน้า ครั้นถึงวันนัดสืบพยานจำเลยในนัดที่ 2 ทนายจำเลยก็ขอเลื่อนการพิจารณาไปอีก โดยอ้างว่าจำเลยที่ 1 ได้รับคำสั่งให้ไปราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่สามารถมาศาลได้ แต่ปรากฏว่าในวันนี้ฝ่ายจำเลยไม่มีพยานมาศาล เห็นว่า แม้จำเลยที่ 1 มีเหตุจำเป็นมาศาลไม่ได้จำเลยที่ 2 และพยานจำเลยคนอื่น ๆ ก็น่าจะมาศาลได้ หากพยานเหล่านี้มาศาลและทนายจำเลยนำพยานเหล่านี้เข้าสืบ ฝ่ายจำเลยก็จะได้รับความยุติธรรมไม่น้อยกว่ที่จะนำจำเลยที่ 1 เข้าสืบด้วย เพราะจำเลยที่ 2และจำเลยที่ 1 ให้การร่วมกันมารู้เห็นเกี่ยวกับคดีนี้อย่างเดียวกัน ทั้งเป็นสามีภริยากันด้วย ทนายโจทก์ก็คัดค้านว่าเป็นการประวิงคดี ในนัดแรกที่ขอเลื่อนทนายจำเลยก็แถลงต่อศาลชั้นต้นไว้ว่า นัดหน้าพยานมาศาลเท่าไรก็จะขอสืบเท่านั้นโดยไม่ขอเลื่อนอีก เมื่อในนัดที่สองนี้จำเลยไม่มีพยานมาศาลเลย การที่ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบให้นัดฟังคำพิพากษาไปทีเดียวโดยไม่อนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาไปอีกจึงชอบแล้ว
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share