คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3339/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการชำระหนี้เงินยืม ผู้ยืมให้ผู้ให้ยืมรับเงินเดือนแทนผู้ยืมแล้วหักเงินเดือนชำระหนี้ดังกล่าว สมุดเซ็นรับเงินเดือนของทางราชการที่ผู้ให้ยืมลงชื่อรับเงินเดือนแทนผู้ยืมจึงเป็นหลักฐานการใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2532)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้คืนเงินกู้ ๒,๐๐๐ บาท และดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า ได้กู้เงินโจทก์ไปจริงแต่ชำระหนี้แล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีข้อวินิจฉัยเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายว่า สมุดเซ็นรับเงินเดือนของทางราชการที่โจทก์ลงชื่อรับเงินเดือนแทนจำเลยเป็นหลักฐานการใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๓ วรรคสอง หรือไม่ การวินิจฉัยข้อกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ซึ่งถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวนว่า โจทก์ลงชื่อรับเงินเดือนแทนจำเลยแล้วหักเงินเดือนของจำเลยใช้หนี้เงินที่จำเลยกู้ยืมโจทก์ครบถ้วนแล้ว ดังนี้ ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นหลักฐานการใช้เงิน ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๓ วรรคสอง
พิพากษายืน

Share