คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3338/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำฟ้องของโจทก์นอกจากจะกล่าวถึงวิธีการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตเริ่มตั้งแต่จำเลยยื่นคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต และโจทก์ออกเลตเตอร์ออฟเครดิตให้ตามคำขอเพื่อชำระราคาสินค้าที่จำเลยสั่งซื้อจากต่างประเทศแล้ว ยังคัดสำเนาเอกสารทั้งหมดแนบมาท้ายฟ้องด้วยทั้งคำให้การของจำเลยก็แสดงว่าจำเลยเข้าใจคำฟ้องดีอยู่แล้ว ฟ้องจึงไม่เคลือบคลุม
สิทธิเรียกร้องที่จะเรียกเงินที่ได้ชำระค่าสินค้าไปตามเลตเตอร์ออฟเครดิตไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปีนับแต่วันที่ชำระค่าสินค้าอันเป็นเวลาที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้
จำเลยยื่นคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตต่อโจทก์ เมื่อโจทก์สนองรับย่อมเกิดเป็นสัญญาผูกพันกัน เมื่อโจทก์ชำระราคาสินค้าที่จำเลยสั่งซื้อให้แก่ผู้ขายไป จำเลยก็มีหน้าที่ชำระเงินคืนแก่โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยและค่าบริการ
เอกสารที่โจทก์ทำไว้ไม่มีข้อความผูกมัดให้โจทก์ต้องยอมให้จำเลยทำทรัสต์รีซีท การที่โจทก์ไม่ยอมให้จำเลยทำทรัสต์รีซีทจึงเป็นสิทธิของโจทก์และถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยและค่าบริการแก่โจทก์ตามสัญญาจำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 หุ้นส่วนผู้จัดการได้ยื่นคำขอเปิดใบให้อำนาจเชื่อ (เลตเตอร์ออฟเครดิต) ต่อโจทก์เพื่อขอให้โจทก์เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตและชำระราคาสินค้าที่จำเลยที่ 1 สั่งซื้อจากเชียสประเทศโปแลนด์ เป็นเงิน 7,800 เหรียญสหรัฐ โจทก์ได้ออกเลตเตอร์ออฟเครดิตให้เมื่อผู้ขายส่งสินค้าลงเรือเรียบร้อยแล้ว โจทก์จึงได้ชำระราคาให้ไปตามเลตเตอร์ออฟเครดิต เมื่อสินค้ามาถึงกรุงเทพมหานคร จำเลยได้ออกเช็คให้แก่โจทก์ แต่เช็คดังกล่าวขึ้นเงินไม่ได้ ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ศาลชั้นต้นบังคับแก่จำเลยทั้งสอง

จำเลยที่ 1 ให้การและฟ้องแย้งต่อสู้เรื่องอำนาจฟ้อง รับว่าได้ขอให้โจทก์เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต แต่จำเลยที่ 1 ไม่เคยได้รับสินค้าและไม่เคยสั่งจ่ายเช็ค โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ จำเลยขาดผลกำไร กับต่อสู้เรื่องฟ้องเคลือบคลุมและขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้องและใช้ค่าเสียหาย

จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การ

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้ง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ย และให้ยกฟ้องแย้ง

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาฟ้องเคลือบคลุมว่า คำฟ้องของโจทก์ได้บรรยายสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหามาชัดแจ้งพอสมควรแล้ว นอกจากจะกล่าวถึงวิธีการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตเริ่มตั้งแต่จำเลยที่ 1 ยื่นคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต และโจทก์ออกเลตเตอร์ออฟเครดิตให้ตามคำขอเพื่อชำระราคาสินค้าที่จำเลยที่ 1 สั่งซื้อแก่ผู้ขายในประเทศโปแลนด์แล้ว โจทก์ยังคัดสำเนาเอกสารทั้งหมดแนบมาท้ายฟ้องด้วยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องจำเลยที่ 1 ก็เข้าใจคำฟ้องของโจทก์ดีอยู่แล้ว ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

ปัญหาเรื่องอายุความวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่โจทก์ชำระค่าสินค้าไปตามที่จำเลยที่ 1 ขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต สิทธิเรียกร้องของโจทก์ในกรณีนี้ไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความเป็นอย่างอื่น ย่อมมีกำหนดอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 นับแต่วันที่โจทก์ชำระค่าสินค้าไปอันเป็นเวลาที่โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้จนถึงวันฟ้องยังไม่ล่วงพ้นกำหนด 10 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

ปัญหาเรื่องผิดสัญญาวินิจฉัยว่า ตามคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตของจำเลยที่ 1 ซึ่งโจทก์สนองรับเกิดเป็นสัญญาผูกพันกันนั้น เมื่อโจทก์ชำระค่าสินค้าที่จำเลยที่ 1 สั่งซื้อแก่ผู้ขายไป จำเลยที่ 1 ก็มีหน้าที่ที่จะต้องชำระเงินคืนแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยและค่าบริการ เอกสารที่โจทก์ทำไว้มีข้อความว่าโจทก์อนุมัติให้จำเลยที่ 1 เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตในวงเงิน 7,800 เหรียญสหรัฐ หามีข้อความตอนใดผูกมัดโจทก์ให้จำต้องยอมให้จำเลยที่ 1ทำทรัสต์รีซีทด้วยไม่ การที่โจทก์ไม่ยอมให้จำเลยที่ 1 ทำทรัสต์รีซีทซึ่งเป็นสิทธิของโจทก์ จึงถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยและค่าบริการอันเป็นหนี้ตามสัญญาให้โจทก์ จำเลยที่ 1 ย่อมเป็นฝ่ายผิดสัญญา

พิพากษายืน

Share