แหล่งที่มา : 11
ย่อสั้น
ฟ้องว่าแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีแต่มิได้บรรยายว่าพยานหลักฐานอันเป็นเท็จที่จำเลยแสดงต่อศาลนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร อีกทั้งเมื่ออ่านคำฟ้องของโจทก์ทั้งหมดแล้วก็ไม่อาจเข้าใจได้เช่นนั้นคำฟ้องของโจทก์จึงขาดองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137,180, 83, 91
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องของโจทก์แล้ว เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์บรรยายในฟ้องไม่เป็นความผิด ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ไต่สวนมูลฟ้องของโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ส่วนข้อที่โจทก์ฎีกาว่า ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายถึงพยานเอกสารที่ว่าเป็นเท็จไว้อย่างชัดแจ้ง สามารถเข้าใจอยู่ในตัวแล้วว่าเอกสารดังกล่าวเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร จำเลยก็สามารถเข้าใจข้อหาได้ดีตามกฎหมายนั้น พิเคราะห์แล้วประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 บัญญัติว่า ‘ผู้ใดนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีถ้าเป็นพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดีนั้น ต้องระวางโทษ ฯ’ ตามบทบัญญัติดังกล่าวองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งก็คือ พยานหลักฐานที่นำสืบหรือแสดงต้องเป็นข้อสำคัญในคดีนั้น ซึ่งโจทก์จะต้องบรรยายมาในฟ้อง แต่ฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายว่าพยานหลักฐานอันเป็นเท็จที่จำเลยแสดงต่อศาลนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไรอีกทั้งเมื่ออ่านคำฟ้องของโจทก์ทั้งหมดแล้วก็ไม่อาจเข้าใจได้เช่นนั้น คำฟ้องของโจทก์จึงขาดองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180
พิพากษายืน.