คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 333/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล เพื่อแสดงว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไร คงกล่าวแต่เพียงว่า ถ้าจำเลยทราบวันนัดก็จะต้องนำหลักฐานเข้าต่อสู้คดีอย่างแน่นอนเพราะจำเลยมีทางชนะคดีของโจทก์ได้เท่านั้น โดยไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงที่จะแสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่าหากมีการพิจารณาคดีใหม่แล้ว ศาลอาจพิพากษาให้จำเลยชนะคดีได้ คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 208 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่ศาลจะสั่งให้มีการพิจารณาใหม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายหลงลูกจ้างของจำเลยขับรถยนต์บรรทุกซุงหมายเลขทะเบียน ล.บ.01197 ในกิจการของจำเลยด้วยความประมาทเลินเล่อพุ่งเข้าชนท้ายรถยนต์โดยสารปรับอากาศหมายเลขทะเบียน ช.ย.01280 ซึ่งโจทก์ได้รับประกันภัยไว้ได้รับความเสียหายต้องซ่อมและเปลี่ยนอุปกรณ์บางส่วน รวมทั้งค่าแรงเป็นเงิน 339,250 บาท ขอให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 339,250 บาทพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่โดยกล่าวว่า การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องเป็นไปโดยมิชอบ จำเลยไม่ทราบประกาศของศาลทางหนังสือพิมพ์ จำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา เพราะไม่ทราบการดำเนินกระบวนการพิจารณาของศาลแต่ต้นและไม่มีผู้ใดรับทราบวันนัดของศาลแทน แม้กระทั่งในการส่งหรือแจ้งคำบังคับให้จำเลยจำเลยไม่ทราบ ถ้าจำเลยทราบก็จะต้องนำหลักฐานเข้าต่อสู้คดีอย่างแน่นอน เพราะจำเลยมีทางที่จะชนะคดีของโจทก์

โจทก์ยื่นคำแถลงคัดค้านว่า การส่งหมายและสำเนาคำฟ้องเป็นไปโดยชอบแล้ว จำเลยขาดนัดโดยจงใจ คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยยื่นเมื่อพ้นกำหนด 15 วันนับแต่วันที่ จำเลยทราบคำบังคับและคำขอให้พิจารณาใหม่มิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ขอให้ยกคำขอของจำเลย

ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำขอของจำเลย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ อนุญาตให้พิจารณาใหม่และงดการบังคับคดีไว้

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลเพื่อแสดงว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไร คงกล่าวแต่เพียงว่า ถ้าจำเลยทราบวันนัดก็จะต้องนำหลักฐานเข้าต่อสู้คดีอย่างแน่นอนเพราะจำเลยมีทางที่จะชนะคดีของโจทก์เท่านั้น โดยไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงที่จะแสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่าหากมีการพิจารณาใหม่แล้ว ศาลอาจพิพากษาให้จำเลยชนะคดีได้ คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติ มาตรา 208 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ที่ศาลจะสั่งให้มีการพิจารณาใหม่ได้ ทั้งนี้ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 2150/2515 คดีระหว่างกรมทางหลวง โจทก์ บริษัทประมวลก่อสร้าง จำกัด จำเลย

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น

Share