แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้สัญญาเช่าซื้อจะกำหนดว่าจำเลยต้องชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างเป็นรายเดือนภายในวันที่ 1 ของทุก ๆ เดือน แต่ตามที่ปฏิบัติจำเลยมิได้ชำระค่าเช่าซื้อให้โจทก์ในวันที่ 1 ของเดือนเป็นส่วนมาก เห็นได้ว่าโจทก์จำเลยมิได้มีเจตนาที่จะถือเอากำหนดเวลาเป็นสาระสำคัญ ดังนั้นในงวดต่อมาแม้จำเลยจะไม่ชำระค่าเช่าซื้อตามวันที่กำหนดไว้ในสัญญา โจทก์ก็จะบอกเลิกสัญญาทันทีไม่ได้ ต้องกำหนดระยะเวลาพอสมควรบอกกล่าวให้จำเลยชำระค่าเช่าซื้อที่ติดค้างอยู่ก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387
จำเลยให้การว่าจำเลยชำระค่าเช่าซื้อทุกงวดให้โจทก์ตลอดมาโดยโจทก์ไม่เคยโต้แย้ง จำเลยไม่เคยผิดสัญญาเช่าซื้อดังนั้น การที่ศาลวินิจฉัยว่าโจทก์จำเลยมิได้ถือเอากำหนดเวลาชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาเป็นข้อสำคัญ ก็เป็นการวินิจฉัยว่าจำเลยไม่เคยผิดสัญญาเช่าซื้อดังที่จำเลยให้การนั่นเองจึงหาเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อร้านค้าพร้อมทั้งสิทธิการเช่าที่ดินที่ปลูกร้านค้าจากโจทก์ ในวันทำสัญญาจำเลยได้ชำระเงินบางส่วน ส่วนที่เหลือจะผ่อนชำระเป็นงวด ๆ ภายในวันที่ 1 ของทุกเดือนจนกว่าจะครบ ถ้าไม่ชำระตามกำหนด ยอมให้โจทก์บอกเลิกสัญญาและริบเงินที่ชำระไปแล้วทั้งสิ้น จำเลยผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อหลายงวด โจทก์เคยเตือนว่าหากผิดนัดอีกจะบอกเลิกสัญญา ต่อมาวันที่ 1 มีนาคม 2524 จำเลยก็ไม่นำเงินมาชำระอีก โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อและให้จำเลยขนย้ายออกไป แต่จำเลยไม่ยอมออกจึงขอให้ขับไล่จำเลยและให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่า ได้ชำระค่าเช่าซื้อแก่ตัวแทนของโจทก์ตลอดมาทุกงวดโจทก์ไม่เคยโต้แย้งใด ๆ โจทก์ไม่เคยบอกกล่าวแก่จำเลยในเรื่องผิดสัญญาเช่าซื้อจำเลยไม่เคยผิดสัญญาเช่าซื้อ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2524 จำเลยนำเงินไปชำระแก่ตัวแทนโจทก์ ดังที่เคยปฏิบัติ แต่ตัวแทนโจทก์ไม่ยอมรับ จำเลยจึงนำเงินไปวางไว้ ณ สำนักงานวางทรัพย์ โจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยยังไม่ผิดสัญญา โจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้สัญญาเช่าซื้อจะกำหนดว่า จำเลยต้องชำระค่าเช่าซื้อที่เหลือ 150,000 บาทต่อไปอีก 30 งวดเป็นรายเดือน งวดละ 5,000บาท ภายในวันที่ 1 ของทุก ๆ เดือน งวดแรกภายในวันที่ 1 มีนาคม 2523แต่ตามที่ปฏิบัติจำเลยมิได้ชำระค่าเช่าซื้อให้โจทก์ในวันที่ 1 ของเดือนเป็นส่วนมาก เห็นได้ว่าโจทก์จำเลยมิได้มีเจตนาที่จะถือเอากำหนดเวลาเป็นสาระสำคัญ ดังนั้น แม้จำเลยจะไม่ชำระค่าเช่าซื้อในงวดวันที่ 1 มีนาคม2524 ตามวันที่กำหนดไว้ในสัญญา โจทก์ก็จะบอกเลิกสัญญาทันทีไม่ได้หากต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387 โดยต้องกำหนดระยะเวลาพอสมควรบอกกล่าวให้จำเลยชำระค่าเช่าซื้องวดวันที่ 1 มีนาคม 2524 ที่ติดค้างอยู่ต่อเมื่อจำเลยไม่ชำระค่าเช่าซื้อภายในระยะเวลาที่กำหนดนั้น โจทก์จึงจะบอกเลิกสัญญาได้ ดังนั้นเมื่อโจทก์ไม่กำหนดระยะเวลาพอสมควรบอกกล่าวให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว จำเลยจึงยังไม่ผิดสัญญาชำระค่าเช่าซื้อ โจทก์ยังบอกเลิกสัญญาทันทีไม่ได้
ที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยมิได้ต่อสู้ว่ากำหนดชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาไม่ใช่ข้อสาระสำคัญ การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาเช่นนั้นจึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นนั้น เห็นว่า จำเลยให้การว่าจำเลยชำระค่าเช่าซื้อทุกงวดให้โจทก์ตลอดมาโดยโจทก์ไม่เคยโต้แย้งใด ๆ ต่อจำเลย โจทก์หรือตัวแทนโจทก์ไม่เคยได้บอกกล่าวแก่จำเลยในเรื่องผิดสัญญาเช่าซื้ออย่างใดจำเลยไม่เคยผิดสัญญาเช่าซื้อ ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาว่าโจทก์จำเลยมิได้ถือเอากำหนดเวลาชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาเป็นข้อสำคัญ ก็เป็นการวินิจฉัยว่าจำเลยไม่เคยผิดสัญญาเช่าซื้อดังที่จำเลยให้การนั่นเอง หาเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นไม่
พิพากษายืน