คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3324/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการติดต่อกับบุคคลธรรมดาอื่น ๆ บริษัทจำเลยที่ 1 มักจะไม่ประทับตราของบริษัท แต่เมื่อติดต่อกับหน่วยราชการจึงจะใช้ตราประทับ และเมื่อบริษัทจำเลยที่ 1 ทำสัญญาให้โจทก์รับเหมาช่วงขุดคลองส่งน้ำของกรมชลประทานกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1ได้ลงลายมือชื่อ แต่ไม่ได้ประทับตราบริษัท บริษัทจำเลยที่ 1 ก็ผูกพันตามสัญญา ดังนั้นการที่กรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1 ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้ไว้แก่โจทก์เนื่องจากโจทก์หาเงินมาให้บริษัทจำเลยที่ 1 ใช้จ่ายในงานก่อสร้างที่รับเหมาจากกรมชลประทานแม้จะมิได้ประทับตราบริษัทจำเลยที่ 1 ก็เป็นการทำแทนบริษัทหนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าวจึงผูกพันบริษัทจำเลยที่ 1

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นบริษัทจำกัด มีนายดุสิตเป็นกรรมการผู้จัดการ โจทก์ได้จัดการหาเงินมาให้บริษัทจำเลยที่ ๑ เพื่อเป็นทุนในงานก่อสร้างที่รับเหมาจากกรมชลประทาน และนายดุสิตกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ ๑ ได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้แก่โจทก์ ต่อมานายดุสิตถึงแก่กรรม จำเลยที่ ๒ ได้เป็นผู้จัดการมรดกของนายดุสิตและเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ ๑ โจทก์จึงแจ้งให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้แก่โจทก์ แต่จำเลยทั้งสองปฏิเสธจึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้คดีหลายประการ รวมทั้งต่อสู้ว่าหนังสือรับสภาพหนี้ไม่ผูกพันบริษัทจำเลยที่ ๑ เพราะไม่มีการประทับตราบริษัทขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ใช้เงินตามหนังสือรับสภาพหนี้แก่โจทก์ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ ๒
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า หนังสือรับสภาพหนี้ไม่ผูกพันจำเลยที่ ๑ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏจากพยานโจทก์ว่า ในการติดต่อกับบุคคลอื่นบริษัทจำเลยที่ ๑ มักจะไม่ประทับตราของบริษัท แต่เมื่อติดต่อกับหน่วยราชการจึงใช้ตราประทับ และจำเลยที่ ๒ ก็เบิกความว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗ บริษัทจำเลยที่ ๑ ทำสัญญากับกรมชลประทานรับเหมาก่อสร้างคลองส่งน้ำโครงการชลประทานเสาธงจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามเอกสารหมาย จ.๑๘ แล้วนายดุสิตได้ทำสัญญาให้โจทก์รับเหมาช่วงขุดคลองส่งน้ำดังกล่าวไปทำ ตามสัญญาเอกสารหมาย จ.๑ การทำสัญญาเอกสารหมาย จ.๑ นายดุสิตทำแทนบริษัทจำเลยที่ ๑ มีข้อความว่า”ข้าพเจ้าบริษัทดุสิต จำกัด โดยนายดุสิต จุฑามาชาติ กรรมการผู้จัดการ”แต่ตอนท้ายของสัญญานายดุสิตลงแต่ลายมือชื่อ ไม่ได้ประทับตราบริษัทจำเลยที่ ๑ บริษัทจำเลยที่ ๑ ก็ผูกพันตามสัญญา ฉะนั้นการที่นายดุสิตทำหนังสือรับสภาพหนี้ตามเอกสารหมาย จ.๑๔ ให้โจทก์ไว้ แม้จะไม่ประทับตราของบริษัทจำเลยที่ ๑ ก็มีเหตุผลฟังได้ว่านายดุสิตทำแทนบริษัทจำเลยที่ ๑ ด้วย เพราะมูลหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าว ก็สืบเนื่องมาจากนายดุสิตทำในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ ๑ ให้โจทก์หาเงินมาให้บริษัทจำเลยที่ ๑ ใช้จ่ายในงานก่อสร้างที่รับเหมามาจากกรมชลประทาน ซึ่งมิใช่งานของนายดุสิตเป็นส่วนตัวเมื่อฟังข้อเท็จจริงว่านายดุสิตทำหนังสือรับสภาพหนี้ตามเอกสารหมาย จ.๑๔แทนจำเลยที่ ๑ หนังสือรับสภาพหนี้เอกสารหมาย จ.๑๔ จึงผูกพันจำเลยที่ ๑
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share